ปัจจุบันผู้คนหันมาซื้อสินค้าจากช่องทางออนไลน์มากขึ้น การส่งพัสดุแบบด่วนหรือการส่งแบบ Express ที่เรารู้จักกันนั้น กลายมาเป็นหนึ่งในตัวเลือกเพื่อใช้ในการตัดสินใจใช้บริการขนส่งต่างๆ เพราะผู้ซื้อแต่ละคนก็ต่างต้องการที่จะได้รับสินค้าที่สั่งซื้ออย่างรวดเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการซื้อผ่านแอพพลิเคชั่นที่โด่งดังในประเทศไทยอย่าง Shopee และ Lazada หรือผ่านโซเชียลมีเดียอย่าง Instagram และ Facebook แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ซื้ออย่างเราๆต้องการเหมือนกันก็คือ “การส่งที่รวดเร็ว” เพื่อจะได้ชื่นชมสินค้าที่เราซื้อไว ๆ แล้วเคยสงสัยกันไหมว่า เมื่อมีคนต้องการใช้ขนส่งพัสดุแบบด่วนมากขนาดนี้ มูลค่าของตลาดจะเติบโตขนาดไหนกันนะ วันนี้ SHIPPOP เลยจะมาบอกเกี่ยวกับการเติบโตของตลาดขนส่งพัสดุด่วนในประเทศไทยกันค่ะ 1. E-Commerce นั้นมีขึ้นมานานแล้ว แต่ตั้งแต่เกิด COVID-19 ก็ยิ่งทำให้อีคอมเมิร์ซนั้นเติบโตอย่างก้าวกระโดด นั่นก็เพราะผู้คนไม่สามารถออกไปซื้อและขายสินค้าได้เหมือนเดิม จึงต้องอาศัยเทคโนโลยีเพื่อให้ดำเนินชีวิตต่อไปได้ ด้วยเหตุนี้ ตลาดอีคอมเมิร์ซจึงเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก ในปี 2019 หรือช่วงก่อนจะมี COVID-19 นั้น ตลาด E-Commerce มีมูลค่าอยู่ที่ 163,300 ล้านบาท แต่พอเกิดสถานการณ์ COVID-19 ขึ้น มูลค่าตลาดก็เพิ่มเป็น 220,000 ล้านบาท ในปลายปี 2020 รวมมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 35% […]
ตลาดโลจิสติกส์มีการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้นเนื่องจากการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซที่พุ่งสูงขึ้นในทุก ๆ ปี โดยเฉพาะในช่วง COVID-19 ที่ทำให้ผู้คนหันมาใช้บริการขนส่งมากขึ้นกว่าเดิม บริษัทขนส่งจึงมีการเปิดให้บริการมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของคนในตลาด แน่นอนว่าผู้ใช้บริการย่อมต้องการการจัดส่งพัสดุที่รวดเร็ว แต่ผู้ให้บริการขนส่งนั้นก็มีเยอะจนเลือกไม่ถูก? วันนี้ SHIPPOP จะพาไปดูกันว่า Top 5 บริษัทขนส่งพัสดุด่วนในประเทศไทยนั้น มีเจ้าไหนที่ดีและคุ้มค่า ก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการกันค่ะ 1. ไปรษณีย์ไทย เป็นขนส่งที่คนไทยคงคุ้นเคยกันอยู่แล้วกับไปรษณีย์ไทยที่เปิดมาแล้วกว่า 100 ปี ให้บริการครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทยเลยก็ว่าได้จุดแข็งสำคัญ คือ บุรุษไปรษณีย์ที่มีความคุ้นชินกับพื้นที่ ทำให้มีความแม่นยำในการจัดส่งพัสดุ และมีความน่าเชื่อถือเนื่องจากเป็นรัฐวิสาหกิจ ราคาสำหรับการจัดส่งแบบ EMS เริ่มต้นที่ 32 บาท และมีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) อีกทั้งยังมีจุดให้บริการทั่วประเทศอีกด้วย 2. Kerry Express อีกหนึ่งบริษัทจัดส่งพัสดุชั้นนำที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยสำหรับตอนนี้นั่นก็คือ Kerry Express ซึ่งมีการให้บริการกระจายอยู่แทบทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นตามย่านชุมชนหรือตามสถานีรถไฟฟ้า BTS ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว ส่วนราคานั้น เริ่มต้นเพียง 30 บาท และมีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) ที่เปิดตัวเป็นรายแรกของประเทศไทยด้วย 3. Flash Express ถึงแม้จะเป็นบริษัทที่พึ่งก่อตั้งมาได้ไม่นาน แต่กลับประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจนล่าสุดกลายเป็น […]
หากคุณกำลังอยากเพิ่มช่องทางการขายด้วยการขายสินค้าออนไลน์ แต่ไม่รู้จะเตรียมตัวอย่างไร เริ่มต้นไม่ถูก วันนี้ SHIPPOP เราจะมาแนะนำ 6 Checklist ที่ช่วยให้คุณได้สำรวจความพร้อมตัวเองและตรวจสอบก่อนว่าคุณพร้อมที่จะขายออนไลน์แล้วหรือยัง เรามาเริ่มเช็กไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ 1. ชื่อร้านค้า ชื่อร้านเป็นสิ่งที่ลูกค้าจะต้องจดจำเราได้ เพราะฉะนั้นเราควรคิดชื่อให้ “สั้นและง่าย” เพื่อที่จะช่วยให้ลูกค้าจดจำเราได้ และสามารถค้นหาง่าย แต่จริง ๆ แล้วการตั้งชื่อก็มีหลากหลายวิธีมากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเอาชื่อของตัวเรามาตั้งเป็นชื่อร้าน หรือการตั้งชื่อด้วยความหมายดี ๆ แต่ถ้าจะให้ดีก่อนจะตั้งชื่อร้านลองลิสต์รายชื่อที่เราชื่นชอบ แล้วทำการสำรวจดูก่อนค่ะว่ามีร้านอื่น ๆ ที่ชื่อเดียวกับเราหรือไม่ มีร้านชื่อซ้ำมากน้อยขนาดไหน เพราะถ้าหากมีร้านที่ชื่อซ้ำกับเรามากเกินไป เวลาลูกค้าค้นหาข้อมูลจากชื่อร้านก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะไปเจอร้านคู่แข่งของเราแทน หรืออาจจะหาร้านเราไม่เจอเลยนั้นเองค่ะ 2. สินค้า คำถามยอดฮิตที่เรามักจะเจอบ่อย คือ “ขายอะไรดี?” หากคุณไม่รู้จะขายอะไร คุณควรเริ่มจากสิ่งที่คุณชื่นชอบหรือสิ่งที่เราสนใจค่ะ เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่คุณมีความรู้ และคุณมักจะติดตามข่าวสารเทรนด์ใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญคือ คุณจะสามารถให้คำแนะนำแก่ลูกค้าของคุณได้อย่างชัดเจน ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นจุดเด่นอีกอย่างนึงให้กับร้านค้าของคุณด้วยนะคะ เนื่องจากเมื่อคุณให้คำแนะนำกับลูกค้าได้ ให้บริการลูกค้าเป็นอย่างดี ลูกค้าก็จะเกิดความประทับใจและมีแนวโน้มที่จะกลับมาซื้อสินค้าซ้ำด้วยนะคะ 3. เงินลงทุน สิ่งสำคัญในการเริ่มต้นทำธุรกิจนั้นก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของ “เงินลงทุน” ค่ะ […]
ช่วงนี้ใคร ๆ ก็หันมาขายของออนไลน์กัน แน่นอนเลยว่าเมื่อมีคนขายเพิ่มมากขึ้น ร้านค้าของเราก็คงจะเจอคู่แข่งทางการค้าเพิ่มด้วยใช่ไหมคะ? นั้นจึงเป็นสาเหตุสำคัญที่เราจะต้องทำให้ร้านค้าของเรานั้น “แตกต่าง” ซึ่งความแตกต่างสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบเลยค่ะ หนึ่งในนั้นก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการ “ถ่ายรูปสินค้า” ถ้าเราถ่ายรูปสินค้าด้วยตัวเอง รับรองว่าไม่ซ้ำใครแน่นอน ถ่ายรูปสวยดูน่าดึงดูดก็ช่วยสะกดสายตาให้ลูกค้าหยุดดูได้นะคะ เพิ่มโอกาสในการขายได้ด้วย การถ่ายรูปให้ปังมีหลายรูปแบบมาก ๆ วันนี้ SHIPPOP จะมาแชร์ 5 เคล็ดลับถ่ายรูปสินค้าให้ลูกค้ากดซื้อค่ะ 1. ถ่ายรูปสินค้ากับพื้นหลังสีขาว ถ้าคุณต้องการถ่ายรูปให้สินค้าของคุณโดดเด่น การเลือกพื้นหลังสีขาวก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณควรลองค่ะ เพราะพื้นหลังขาวจะช่วยให้รูปดูคลีน สะอาดตา และสินค้าของคุณจะโดดเด่นมาก คุณสามารถถ่ายโดยใช้กำแพงสีขาว ใช้กระดาษ หรือผ้าสีขาวก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน และถ้าคุณอยากจะตกแต่งรูปภาพเพิ่มเติม เช่น ใส่ข้อความ กรอบตกแต่ง ก็สามารถแก้ไขหรือตัดต่อได้ง่าย ไม่ยุ่งยากแน่นอน 2. ถ่ายรูปสินค้าให้เด่น ด้านหลังเบลอ การถ่ายรูปสินค้าให้ด้านหลังเบลอจะช่วยให้สินค้าของคุณดูมีมิติและสวยงามน่าดึงดูดมากเลยค่ะ ไม่จำเป็นเลยว่าจะต้องใช้กล้องราคาแพง เพราะตอนนี้เพียงเราใช้โทรศัพท์มือถือ โฟกัสภาพให้ดี ๆ คุณก็สามารถมีรูปสวย ๆ มาโพสต์ขายได้แล้ว สิ่งสำคัญคือ หากคุณต้องการถ่ายให้เบลอก็ต้องเลือกสถานที่ให้เหมาะนะคะ ว่าสถานที่นั้นเหมาะสมกับตัวสินค้าของคุณหรือไม่ หากคุณเลือกสถานที่ไม่ดี รูปภาพอาจจะดูรกและไม่สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ได้ค่ะ 3. ถ่ายรูปสินค้ากับแสงธรรมชาติ […]
ถ้าช่วงนี้ยอดขายกำลังตก เราก็ต้องหาวิธีมาช่วยกระตุ้นยอดขายใช่ไหมคะ? การจัดโปรโมชั่นเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคุณค่ะ แต่การจัดโปรโมชั่นก็มีหลากหลายรูปแบบนะคะ ถ้าคุณเข้าใจและนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ รับรองค่ะว่ามียอดสั่งซื้อออเดอร์เข้ามาแน่นอน 1. เข้าร่วมแคปเปญประจำเดือน แคมเปญประจำเดือน คุณอาจจะเป็นคนจัดขึ้นมาเองก็ได้ หรือเข้าร่วมแคมเปญของแพลตฟอร์มที่คุณขายสินค้า เช่น แคมเปญใน Lazada หรือ Shopee จะมีแคมเปญอย่าง 6.6 , 7.7 ที่จะมีขึ้นในทุก ๆ เดือน เป็นต้น ซึ่งในช่วงเทศกาลนี้จะมีลูกค้าให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก หากคุณเข้าร่วมแคมเปญและจัดโปรโมชั่นก็จะเป็นอีกส่วนนึงที่ช่วยกระตุ้นยอดขายของคุณได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ แต่.. ถ้าไม่อย่างเข้าร่วมแคมเปญกับแพลตฟอร์ม เราก็สามารถทำเป็นโปรโมชั่นของเราได้ด้วยเช่นกันนะคะ อาจจะใช้ชื่อแคมเปญเดียวกันก็ได้ค่ะแต่ว่าไม่ต้องลงขายผ่านแพลตฟอร์ม โดยการใช้วิธีแจ้งลูกค้าล่วงหน้าว่าเราจะมีจัดโปรโมชั่นให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้ากับได้โดยตรง วิธีนี้ก็ช่วยให้ลูกค้าซื้อได้ง่ายขึ้นค่ะ 2. ออกโปรโมชั่นตามฤดูกาล ตามฤดูกาลในทีนี้ หมายถึง ฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว เป็นต้น ข้อนี้ต้องพึงระวังนิดนึงตรงที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่คาดเดาอากาศได้ยากเลยค่ะ ฤดูฝนแต่อากาศร้อนก็มีให้เราพบบ่อยครั้ง แต่ถ้าคุณไม่ได้จัดโปรโมชั่นตลอดทุกเดือน การแบ่งตามฤดูกาลก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจนะคะ เพราะเรายังคงจัดโปรโมชั่น แต่ความถี่น้อยลง ซึ่งอันนี้หากเราจัดโปรนาน ๆ ครั้ง เวลาเราจัดโปรโมชั่นครั้งนึง รับรองค่ะว่าออเดอร์ถล่มแน่นอน เพราะถ้าคุณจัดโปรเป็นประจำทุกเดือน บางทีลูกค้าอาจจะไม่ซื้อเลยทันที แต่อาจคิดว่าเดี๋ยวก็มีโปร รออีกนิดนึงก็ได้นั้นเองค่ะ […]
การทำ Facebook Fanpage สร้างง่ายแต่ดึงดูดคนหรือลูกค้าให้สนใจในคอนเทนต์ของเราอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลาย ๆ คนเลยค่ะ แต่ถ้าเราเข้าใจเกี่ยวกับแพลตฟอร์มและรู้ว่าต้องอย่างไร ก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจได้มากขึ้นนะคะ เรามาดูกันเลยค่ะ มีเคล็ดลับอะไรบ้างที่ช่วยให้เพจของเราปัง! 1. เข้าใจสัดส่วนของรูปภาพ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ใครหลายคนมักจะมองข้ามค่ะ แต่รู้ไหมคะว่าในโลกออนไลน์รูปภาพหรือวิดีโอนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากเลยค่ะ เพราะเป็นสิ่งที่คนจะเห็นและถ้าถูกใจเขาจะเข้ามาในเพจของเราเพื่อดูโพสต์อื่น ๆ เพิ่มเติมหรืออาจจะกดไลก์ กดติดตามเพจของเราค่ะ ถ้าคุณต้องการทำรูปคุณต้องมีภาพในหัวก่อนค่ะว่า คุณอยากโพสต์กี่รูป? เพราะในแต่ละแบบจะมีสัดส่วนที่แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น 1.1 ถ้าคุณโพสต์ 1 รูปเราแนะนำให้คุณใช้ขนาด 1200×1200 px ค่ะ เพราะเมื่อโพสต์ไปรูปจะได้สัดส่วนที่พอดี ดูเข้าใจง่าย 1.2 ถ้าคุณต้องการโพสต์หลายรูป รูปปกโพสต์ของคุณเราขอแนะนำให้คุณขนาด 1200×800 px นอกนั้นให้ใช้ขนาด 1200×1200 px ค่ะ รูปภาพที่คุณได้จะสวยงามมากขึ้น และดูน่าดึงดูดมากขึ้นด้วยนะคะ 2. สร้างภาพจำให้กับลูกค้า ทำยังไงให้คนจำได้? เวลาที่คุณทำคอนเทนต์ออกมาคุณต้องอย่าลืมที่จะใส่ “เอกลักษณ์” ของเพจคุณลงไปค่ะ ถ้าคุณมีสิ่งนึงที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของเพจในทุก ๆ โพสต์ เวลาคนเห็นเขาจะเกิดภาพจำค่ะ เริ่มแรกถ้าลูกค้าอ่านโพสต์ของเรา เขาอาจจะต้องอ่านชื่อเพจก่อนค่ะว่าโพสต์นี้ใครเป็นคนทำ แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อย […]
