ส่งของ Archives - SHIPPOP
ทำไมธุรกิจถึงต้องทำ “วิดีโอ”?

ทำไมธุรกิจถึงต้องทำ “วิดีโอ”?

ขายของออนไลน์ บางทีแค่โพสต์รูปภาพอย่างเดียวอาจจะไม่พอนะคะ เพราะในบางครั้งลูกค้าเห็นรูปก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเข้าใจสินค้าหรือบริการของเราค่ะ ตอนนี้ธุรกิจของเราควรเพิ่ม “วิดีโอ” เข้ามาเป็นอีกหนึ่งในคอนเทนต์ที่เราต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพราะจะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจธุรกิจของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรามาดูกันเลยค่ะว่าการที่เรามีวิดีโอนั้นจะช่วยธุรกิจเราในเรื่องใดบ้าง 1. เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจสินค้าและบริการ ถ้าตอนนี้คุณกำลังขายสินค้าหรือให้บริการบางสิ่งบางอย่างที่เป็นของ “แปลกใหม่” หรือเป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่รู้จัก แน่นอนเลยว่ามันเป็นเรื่องยากมากที่เราจะสามารถแนะนำหรือพูดคุยเกี่ยวกับสินค้าของเราให้ลูกค้าแต่ละคนฟัง หรือถ้าจะทำโพสต์เขียนอธิบาย ก็ทำได้นะคะ แต่ถ้าเขียนยาวมากเกินไป ลูกค้าคงมองข้ามและไม่อ่านโพสต์อย่างแน่นอน แต่เราสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วย “วิดีโอ” เราควรทำวิดีโอออกมาโดยมีเนื้อหาบอกว่าธุรกิจของเราทำเกี่ยวกับอะไร ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และสินค้าเราจะเข้าไปแก้ปัญหาของลูกค้าได้อย่างไร สิ่งสำคัญคือจะต้องวิดีโอให้เข้าใจง่าย น่าสนใจ และไม่ยาวจนเกินไป ไม่ต้องเน้นเจาะลึกแต่ต้องให้ลูกค้าเห็นภาพรวมของธุรกิจเรานั่นเองค่ะ ตัวอย่าง:   2. เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ ถ้าเราออกงานบ่อย ไปขายสินค้าหรือบริการนอกสถานที่เป็นประจำ นอกจากถ่ายภาพเก็บบรรยากาศแล้ว ก็อย่าลืมถ่าย “วิดีโอ” เพื่อเป็นการประมวลบรรยากาศกิจกรรมต่าง ๆ เพราะสิ่งแหละค่ะจะดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้ดี เนื่องจากในวิดีโอไม่ใช่การขายสินค้าแต่เป็นการที่ลูกค้าจะได้เห็นว่าเราทำอะไรบ้าง มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการหรือสนใจสินค้าเรามากน้อยเพียงใด ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของเราได้ด้วยนะคะว่าธุรกิจของเรานั้นมีตัวตนจริง ได้ออกกิจกรรมและร่วมงานกับหลากหลายแบรนด์ ตัวอย่าง:   3. เพื่อสอนวิธีการใช้งานสินค้าหรือบริการ ข้อนี้หลายคนอาจจะเกิดคำถามว่า แล้วต่างอย่างไรกับข้อ 1? ต้องบอกเลยว่าถ้าเป็นแบบข้อแรก เราจะเน้นไปที่ “ภาพรวมของธุรกิจ” แต่เมื่อเราได้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการหรือสินค้าของเราแล้ว ลูกค้าก็มักจะเกิดคำถามว่าสินค้าอันนี้มีวิธีการใช้งานอย่างไร? นั้นจึงเป็นสาเหตุที่เราจะต้องทำเป็น […]

ออเดอร์เยอะจนส่งของไม่ทัน ทำยังไงดี?

ออเดอร์เยอะจนส่งของไม่ทัน ทำยังไงดี?

ช่วงนี้คนเข้ามาขายของออนไลน์กันเยอะมากเลยค่ะ บางรายเรียกได้ว่าออเดอร์ถล่มทลายกันเลยทีเดียว แต่เมื่อมีออเดอร์ยอดคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก แม่ค้าส่วนใหญ่จะเจอกับปัญหาแบกกล่องพัสดุไปส่งของไม่ไหว หรืออาจจะเจอปัญหาส่งของไม่ทัน เขียนใบปะหน้าไม่ไหว แต่ทุกปัญหามีทางออก เรามาดูกันค่ะว่าจะจัดการกับปัญหาน่าปวดหัวเหล่านี้อย่างไร 1. แบ่งสต๊อกสินค้าให้เป็นหมวดหมู่ชัดเจน สิ่งสำคัญที่สุด คือ เราต้องบริหารคลังสินค้าของเราให้ดีค่ะ เพราะถ้าหากเราวางสินค้าตามใจเวลาจะหาของมาแพคจะวิ่งกันวุ่นวายเพราะหาของไม่เจอ! ดังนั้นการจัดระเบียบและแบ่งโซนให้ชัดเจนจะช่วยให้เราหยิบสินค้าได้ไวขึ้น ถ้ายังเป็นมือใหม่พึ่งเริ่มต้น อาจจะยังไม่มีชั้นวางของแต่ก็ยังแนะนำว่าให้แบ่งแยกสินค้าให้เป็นหมวดหมู่ดีกว่าค่ะ แบ่งโซนพื้นที่เก็บของเราให้ชัดเจนว่าในแต่ละโซนจะจัดวางสินค้าประเภทอะไร การทำแบบนี้มีประโยชน์ในการนับสต๊อกด้วยนะคะ ช่วยป้องกันสต๊อกขาดซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราเสียโอกาสในการขายด้วยค่ะ 2. ลดขั้นตอนงาน ทำทุกอย่างให้ไวขึ้น ปกติแล้วเวลาเราจะส่งสินค้าเราจะต้องใช้เวลาเยอะเลยใช่ไหมคะ ทั้งเดินไปหยิบของ ห่อบับเบิ้ล แถมยังต้องเขียนใบปะหน้าอีก แต่ถ้ามี “ระบบของ SHIPPOP” เข้ามาช่วยก็จะทำให้ลดระยะเวลาไปได้ค่ะ โดยการที่เราเอาข้อมูลลูกค้าพิมพ์เข้าระบบ หรือแค่ Copy ข้อความที่ลูกค้าส่งให้ ก็ไม่ต้องเสียเวลามาเขียนใบปะหน้าอีกต่อไป เมื่อเราเอาข้อมูลเข้าระบบเราก็แค่ปริ้นท์ใบปะหน้าออกมา แล้วแปะที่หน้ากล่องพัสดุได้ทันทีเลยค่ะ เป็นการลดระยะเวลา ที่สำคัญยังช่วยป้องกันข้อมูลผิดพลาดด้วยนะคะ เพราะปกติถ้าใช้มือเขียน พนักงานขนส่งก็จะเจอปัญหาอ่านลายมือไม่ออก ทำให้จัดส่งล่าช้าได้ค่ะ 3. ใช้บริการ Drop-off ธรรมดาถ้าเราไปส่งของที่สาขาของไปรษณีย์ เราอาจจะต้องกดบัตรรอคิวนาน ทำให้เราเสียเวลา ที่สำคัญการรอนาน ๆ ถ้าเราไปไม่ทันเวลาช่วงที่เขาตัดรอบส่งพัสดุก็จะทำให้เราพัสดุของเราถึงมือลูกค้าช้าด้วยนะคะ แต่ถ้าเราเลือกใช้บริการ Drop-off เราจะมีเวลาเพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะเพราะว่าไม่ต้องต่อแถวแล้ว […]

4 ไอเดียขายสินค้าในช่วง COVID-19

4 ไอเดียขายสินค้าในช่วง COVID-19

ปี 2021 ใครที่ยังไม่เริ่มขายของออนไลน์ ต้องศึกษาอย่างจริงและต้องปรับตัวขายออนไลน์กันให้มากขึ้นนะคะ พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปมาก ทุกวันนี้อัตราการซื้อของออนไลน์ก็เติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ เลยค่ะ สำหรับใครที่ยังคิดไม่ออกว่าจะเริ่มต้นขายสินค้าอะไรดี ลองมาดูไอเดียสินค้ากันในบล็อกนี้ได้เลยนะคะ 1. อุปกรณ์กีฬา ฟิตเนสหลายแห่งปิดให้บริการชั่วคราว สินค้าอุปกรณ์กีฬาเป็นหนึ่งในสิ่งที่ขายดีมาก ๆ ในช่วงที่มีระบาดโควิดรอบแรก ในเวลานี้ผู้คนเริ่มอยู่บ้านกันมากขึ้นไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสก็ไม่ได้ การขายอุปกรณ์กีฬาก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจนะคะ ไม่ว่าจะเป็น เสื่อโยคะ ดัมเบล อุปกรณ์ยางยืด เชือกกระโดด เป็นต้น เพราะคาดว่าช่วงนี้ผู้คนคงเริ่มมองหาอุปกรณ์สำหรับออกกำลังกายภายในบ้านกันมากขึ้นค่ะ 2. เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เมื่อผู้คนเริ่ม Work from home ก็ต้องเริ่มมองหาโต๊ะและเก้าอี้สำหรับนั่งทำงาน และเขาก็จะเริ่มมองรอบตัวมากขึ้น เริ่มอยากหากิจกรรมภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งบ้าน หรือการทำอาหาร ดังนั้นอุปกรณ์่เครื่องครัวมีแนวโน้มที่จะขายดี เมื่อช่วงที่โควิดระบาดรอบแรกก็เกิดกระแสการทำบราวนี่ คนฮิตทำกันเยอะมาก ไม่แน่ว่าในช่วงนี้ผู้คนอาจจะสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ขึ้นมาอีกครั้งก็ได้นะคะ 3. หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในช่วงนี้ คือ หน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ค่ะ เป็นสิ่งปกติที่คนต้องพกติดตัวกัน ดังนั้นจึงเป็นสินค้าขายดีและมีความต้องการสูง ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากแบบผ้าหรือแบบกระดาษก็ขายดีทั้งนั้น หากเราผลิตเองก็อย่าลืมนำหน้ากากสำหรับ “เด็ก” มาขายด้วยนะคะ เพราะจะเป็นอีกทางเลือกที่ทำให้ร้านของเราดูพิเศษมากขึ้น […]

4 วิธี เพิ่มยอดขายด้วยการส่งของ

4 วิธี เพิ่มยอดขายด้วยการส่งของ

การเพิ่มยอดขายไม่ได้หมายความว่าเราจะทำกำไรจากการ “ตั้งราคาสินค้า” อย่างเดียวเท่านั้นนะคะ เนื่องจากเราสามารถทำได้หลากหลายวิธีเลยค่ะ หนึ่งในนั้นก็คือ “การเพิ่มยอดขายด้วยการส่งของ” เนื่องจากเป็นอีกส่วนหนึ่งที่เราสามารถควบคุมต้นทุนได้ แถมยังเอาไปทำการตลาดดึงดูดให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ 1. รองรับการเก็บเงินปลายทาง (COD) รองรับการเก็บเงินปลายทาง หรือให้บริการ Cash On Delivery (COD) เป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้แบรนด์ของคุณน่าเชื่อถือและช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้ด้วยค่ะ เนื่องจากลูกค้าจะทำการสั่งซื้อสินค้า และจะชำระค่าสินค้าให้กับเราก็ต่อเมื่อเขาได้รับสินค้าแล้วเท่านั้น ซึ่งลูกค้าก็จะมั่นใจได้ว่าเราส่งของให้จริงนั่นเองค่ะ แต่การให้บริการเก็บปลายทางจะมีคิดค่าธรรมเนียมการให้บริการด้วยนะคะ ซึ่งค่าธรรมเนียมในแต่ละขนส่งจะแตกต่างกันไปค่ะ ดังนั้นเจ้าของธุรกิจควรศึกษาเงื่อนไขให้ดีเพื่อบริหารงานขายได้ดียิ่งขึ้น 2. ดึงดูดลูกค้าด้วยคำว่า “ส่งฟรี” ลูกค้าหลายคนยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้า แต่พอเจอ “ค่าส่ง” ก็จะรู้สึกเสียดาย ไม่อยากจ่ายเงินเพิ่ม ดังนั้นร้านค้าอย่างเราควรบวกค่าจัดส่งไว้ในค่าสินค้า ยกตัวอย่างเช่น สินค้าราคา 100 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาท เมื่อต้องระบุราคาขายให้เขียนว่า “ราคา 150 บาท ส่งฟรี” จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าแต่ละขนส่งคิดค่าบริการเท่าไหร่? SHIPPOP เรามีฟังก์ชั่นให้ทุกคนสามารถเข้ามา “เปรียบเทียบราคา” ของขนส่งได้ โดยแค่ระบุหมายเลขไปรษณีย์ต้นทาง-ปลายทาง พร้อมทั้งระบุน้ำหนัก ที่สำคัญสามารถเช็คราคาได้ “ฟรี” […]

3 เหตุผล ที่คุณควรขายของใน Instagram

3 เหตุผล ที่คุณควรขายของใน Instagram

สำหรับใครที่กำลังมองหาว่าจะ “ขายของออนไลน์ในแพลตฟอร์มไหนดี?” เราขอแนะนำให้เปิดร้านขายของออนไลน์ใน Instagram (IG) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นช่องทางที่ไม่ได้เป็นแค่หนึ่งในขั้นตอนของการทำการตลาดเท่านั้นนะคะ เพราะถ้าหากเราบริหารร้านค้าได้ดีก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขายของเราได้ด้วยค่ะ  1. ลูกค้าช็อปปิ้งได้ง่าย Instagram เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มยอดนิยมที่ร้านค้ามักเลือกใช้เพื่อเปิดร้านค้าออนไลน์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้แบรนด์และลูกค้ามีปฎิสัมพันธ์กันและสามารถปิดการขายได้ในที่เดียวด้วย เพราะลูกค้าสามารถแชทหาเราได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการคอมเมนต์หรือทัก direct message เพื่อสอบถามรายละเอียดและสั่งซื้อสินค้าได้ทันที ที่สำคัญ คือ หากเราเทียบกับการขายในช่องทางออฟไลน์หรือในเว็บไซต์ ลูกค้าจะต้องเปิดดูสินค้าในแค็ตตาล็อกหรือคลิกลิงก์ต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ แต่ใน Instagram เราจะสามารถแสดงข้อมูลได้ในโพสต์เดียว ทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่ยุ่งยากในการใช้งาน 2. เป็นการตลาดทางตรงสู่ผู้บริโภค Instagram เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ลูกค้าจะเลือกใช้เพื่อสื่อสารกับแบรนด์ ซึ่งหมายความว่าเมื่อลูกค้าจะตัดสินใจซื้อสินค้าสักหนึ่งชิ้น ลูกค้ามีแนวโน้มหาสินค้าบน Instagram ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเพื่อดูรูปภาพและข้อมูลต่าง ๆ และจะเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออฟไลน์หรือเลือกซื้อผ่านทางช่องทางออนไลน์อื่น ๆ ด้วยรูปแบบของแพลตฟอร์มจึงทำให้ลูกค้าดูสินค้าได้สะดวกและรวดเร็ว เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่เน้นรูปภาพเป็นหลัก สามารถลงรูปได้สูงสุด 10 รูป/โพสต์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถจูงใจให้ซื้อสินค้าและมีแนวโน้มที่จะเป็นลูกค้าประจำของแบรนด์ 3. กระตุ้นการซื้อ หากเป็นสมัยก่อนเวลาลูกค้าวางแผนที่จะซื้อหรือตัดสินใจซื้อแล้ว จะเดินเข้าไปซื้อตามร้านค้าออฟไลน์ทันที แต่อย่างไรก็ตาม Instagram ก็เป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้าด้วยเช่นกัน หมายความว่า ในบางครั้งเวลาที่ลูกค้าเบื่อ ๆ […]