SHIPPOP, Author at SHIPPOP - Page 17 of 43
3 เคล็ดลับทำเพจให้ปัง!

3 เคล็ดลับทำเพจให้ปัง!

การทำ Facebook Fanpage สร้างง่ายแต่ดึงดูดคนหรือลูกค้าให้สนใจในคอนเทนต์ของเราอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลาย ๆ คนเลยค่ะ แต่ถ้าเราเข้าใจเกี่ยวกับแพลตฟอร์มและรู้ว่าต้องอย่างไร ก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจได้มากขึ้นนะคะ เรามาดูกันเลยค่ะ มีเคล็ดลับอะไรบ้างที่ช่วยให้เพจของเราปัง! 1. เข้าใจสัดส่วนของรูปภาพ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ใครหลายคนมักจะมองข้ามค่ะ แต่รู้ไหมคะว่าในโลกออนไลน์รูปภาพหรือวิดีโอนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากเลยค่ะ เพราะเป็นสิ่งที่คนจะเห็นและถ้าถูกใจเขาจะเข้ามาในเพจของเราเพื่อดูโพสต์อื่น ๆ เพิ่มเติมหรืออาจจะกดไลก์ กดติดตามเพจของเราค่ะ ถ้าคุณต้องการทำรูปคุณต้องมีภาพในหัวก่อนค่ะว่า คุณอยากโพสต์กี่รูป? เพราะในแต่ละแบบจะมีสัดส่วนที่แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น 1.1 ถ้าคุณโพสต์ 1 รูปเราแนะนำให้คุณใช้ขนาด 1200×1200 px ค่ะ เพราะเมื่อโพสต์ไปรูปจะได้สัดส่วนที่พอดี ดูเข้าใจง่าย 1.2 ถ้าคุณต้องการโพสต์หลายรูป รูปปกโพสต์ของคุณเราขอแนะนำให้คุณขนาด 1200×800 px นอกนั้นให้ใช้ขนาด 1200×1200 px ค่ะ รูปภาพที่คุณได้จะสวยงามมากขึ้น และดูน่าดึงดูดมากขึ้นด้วยนะคะ 2. สร้างภาพจำให้กับลูกค้า ทำยังไงให้คนจำได้? เวลาที่คุณทำคอนเทนต์ออกมาคุณต้องอย่าลืมที่จะใส่ “เอกลักษณ์” ของเพจคุณลงไปค่ะ ถ้าคุณมีสิ่งนึงที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของเพจในทุก ๆ โพสต์ เวลาคนเห็นเขาจะเกิดภาพจำค่ะ เริ่มแรกถ้าลูกค้าอ่านโพสต์ของเรา เขาอาจจะต้องอ่านชื่อเพจก่อนค่ะว่าโพสต์นี้ใครเป็นคนทำ แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อย […]

5 กลยุทธ์เพิ่มโอกาสในการขาย

5 กลยุทธ์เพิ่มโอกาสในการขาย

ในช่วงที่การแข่งขันสูงขึ้น และผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่ลดลง หลายคนอาจกำลังประสบกับปัญหา “ยอดขายตก” บทความในครั้งนี้เรานำเสนอ 5 กลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย ซึ่งคุณสามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรม เลือกหัวข้อที่น่าสนใจและอย่าลืมนำไปปรับใช้กันดูนะคะ 1. เขียนข้อความให้น่าสนใจและดึงดูด สิ่งสำคัญเมื่อคุณเริ่มต้นทำคอนเทนต์ คุณต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้าหยุดสายตาเพื่ออ่านคอนเทนต์ของคุณ สิ่งที่ง่ายที่สุด คือ การบอกสิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าของคุณจะได้รับ หรือทำคอนเทนต์ที่อิงกับกระแสสังคมในช่วงเวลานั้น ๆ ค่ะ หากคุณเลือกที่ทำโดยการให้สิทธิประโยชน์ คุณก็ต้องสำรวจและวิเคราะห์ดูก่อนนะคะว่าจริง ๆ แล้วลูกค้านั้นมีความต้องการอะไร เช่น ลูกค้าที่ส่งของ มักชื่นชอบการได้ส่งฟรี เป็นต้น ส่วนถ้าคุณอยากอิงตามกระแส คุณก็ต้องมีทีมที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว เพราะสมัยนี้กระแสมาไวไปไว ถ้าคุณทำคอนเทนต์ช้า ก็อาจจะตกเทรนด์ แต่ถ้าคุณทำได้ทันเวลาและทำได้อย่างสร้างสรรค์ ก็จะโดนใจผู้บริโภคไปเต็ม ๆ  2. ทำให้ทุกอย่างรองรับ “มือถือ” ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าแทบทุกคนใช้สมาร์ทโฟนกันหมด ไม่ว่าจะเล่นโซเชียลมีเดียหรือค้นหาข้อมูล นอกจากใช้คอมพิวเตอร์แล้ว คนส่วนใหญ่ก็มักจะค้นหาข้อมูลผ่านทางมือถือด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม หากคุณมีเว็บไซต์ คุณต้องให้ความสำคัญในการออกแบบให้เว็บไซต์รองรับกับมือถือด้วย หากเว็บไซต์ของคุณยังไม่รองรับ เมื่อลูกค้าเข้ามาที่หน้าเว็บไซต์เขาก็ดูข้อมูลแบบไม่มีประสิทธิภาพ ใช้งานได้ไม่ดี และอาจเกิดความไม่พอใจ รำคาญใจ จนอาจออกจากเว็บไซต์ไป ส่งผลให้คุณก็เสียโอกาสในการขายด้วยเช่นเดียวกัน 3. เสนอให้ลูกค้าทดลองใช้สินค้าหรือบริการ  ถ้าคุณจำหน่ายสินค้าหรือริการใหม่ […]

SHIPPOP ปรับราคาใหม่ “eCo-Post” บริการส่งด่วนจากไปรษณีย์ไทย เริ่มต้นเพียง 23 บาท

SHIPPOP ปรับราคาใหม่ “eCo-Post” บริการส่งด่วนจากไปรษณีย์ไทย เริ่มต้นเพียง 23 บาท

ไปรษณีย์ eCo-Post คือ บริการส่งพัสดุจากไปรษณีย์ไทยที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับธุรกิจร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการประหยัดต้นทุนในการส่งสินค้าโดยเฉพาะ ส่งของได้ในราคาที่ถูกกว่าเดิม สามารถฝากส่งพัสดุสูงสุดถึง 10 กิโลกรัม พร้อมมีวงเงินประกันพัสดุสูงสุด 1,500 บาทต่อชิ้น โดยในตอนนี้ทาง SHIPPOP ได้ปรับราคาค่าจัดส่งใหม่เรื่มต้นเพียง 23 บาท โดยราคานี้จะมีผลตั้งตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป สามารถตรวจสอบราคาและเงื่อนไขการให้บริการได้ ตามตารางด้านล่าง เงื่อนไขเบื้องต้น 1.ผู้ใช้บริการจะต้องนำสินค้าไปส่ง ณ ที่ทำการไปรษณีย์ ตามที่กำหนดไว้เท่านั้น ในช่วงเวลาทำการ  วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ เวลา 8.00 – 16.00 น. หรือตามเวลาทำการที่สาขากำหนด วันเสาร์ ถึง วันอาทิตย์ เวลา 8.00 – 12.00 น. หรือตามเวลาทำการที่สาขากำหนด 2.ชดใช้ค่าเสียหายหรือสูญหาย ตามมูลค่าความเสียหายหรือสูญหายจริง แต่ไม่เกิน 1,500 บาท ทั้งนี้ความเสียหายดังกล่าวต้องไม่เกิดจากการบรรจุหรือหุ้มห่อสิ่งของไม่แข็งแรง และพัสดุที่ไม่อยู่ในความคุ้มครอง 3. […]

ทำไมธุรกิจถึงต้องทำ “วิดีโอ”?

ทำไมธุรกิจถึงต้องทำ “วิดีโอ”?

ขายของออนไลน์ บางทีแค่โพสต์รูปภาพอย่างเดียวอาจจะไม่พอนะคะ เพราะในบางครั้งลูกค้าเห็นรูปก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเข้าใจสินค้าหรือบริการของเราค่ะ ตอนนี้ธุรกิจของเราควรเพิ่ม “วิดีโอ” เข้ามาเป็นอีกหนึ่งในคอนเทนต์ที่เราต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพราะจะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจธุรกิจของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรามาดูกันเลยค่ะว่าการที่เรามีวิดีโอนั้นจะช่วยธุรกิจเราในเรื่องใดบ้าง 1. เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจสินค้าและบริการ ถ้าตอนนี้คุณกำลังขายสินค้าหรือให้บริการบางสิ่งบางอย่างที่เป็นของ “แปลกใหม่” หรือเป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่รู้จัก แน่นอนเลยว่ามันเป็นเรื่องยากมากที่เราจะสามารถแนะนำหรือพูดคุยเกี่ยวกับสินค้าของเราให้ลูกค้าแต่ละคนฟัง หรือถ้าจะทำโพสต์เขียนอธิบาย ก็ทำได้นะคะ แต่ถ้าเขียนยาวมากเกินไป ลูกค้าคงมองข้ามและไม่อ่านโพสต์อย่างแน่นอน แต่เราสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วย “วิดีโอ” เราควรทำวิดีโอออกมาโดยมีเนื้อหาบอกว่าธุรกิจของเราทำเกี่ยวกับอะไร ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และสินค้าเราจะเข้าไปแก้ปัญหาของลูกค้าได้อย่างไร สิ่งสำคัญคือจะต้องวิดีโอให้เข้าใจง่าย น่าสนใจ และไม่ยาวจนเกินไป ไม่ต้องเน้นเจาะลึกแต่ต้องให้ลูกค้าเห็นภาพรวมของธุรกิจเรานั่นเองค่ะ ตัวอย่าง:   2. เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ ถ้าเราออกงานบ่อย ไปขายสินค้าหรือบริการนอกสถานที่เป็นประจำ นอกจากถ่ายภาพเก็บบรรยากาศแล้ว ก็อย่าลืมถ่าย “วิดีโอ” เพื่อเป็นการประมวลบรรยากาศกิจกรรมต่าง ๆ เพราะสิ่งแหละค่ะจะดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้ดี เนื่องจากในวิดีโอไม่ใช่การขายสินค้าแต่เป็นการที่ลูกค้าจะได้เห็นว่าเราทำอะไรบ้าง มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการหรือสนใจสินค้าเรามากน้อยเพียงใด ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของเราได้ด้วยนะคะว่าธุรกิจของเรานั้นมีตัวตนจริง ได้ออกกิจกรรมและร่วมงานกับหลากหลายแบรนด์ ตัวอย่าง:   3. เพื่อสอนวิธีการใช้งานสินค้าหรือบริการ ข้อนี้หลายคนอาจจะเกิดคำถามว่า แล้วต่างอย่างไรกับข้อ 1? ต้องบอกเลยว่าถ้าเป็นแบบข้อแรก เราจะเน้นไปที่ “ภาพรวมของธุรกิจ” แต่เมื่อเราได้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการหรือสินค้าของเราแล้ว ลูกค้าก็มักจะเกิดคำถามว่าสินค้าอันนี้มีวิธีการใช้งานอย่างไร? นั้นจึงเป็นสาเหตุที่เราจะต้องทำเป็น […]

5 วิธีเอาชนะคู่แข่งขันทางธุรกิจ

5 วิธีเอาชนะคู่แข่งขันทางธุรกิจ

ท่ามกลางกระแสการขายของออนไลน์ ตอนนี้เชื่อว่าหลายท่านกำลังเจอปัญหาร้านค้าคู่แข่งที่ขายสินค้าหรือทำบริการคล้ายคลึงกับเรา จนอาจทำให้เราเสียลูกค้าไปโดยไม่รู้ตัว แล้วเราจะทำอย่างไรให้ธุรกิจของเรานั้นอยู่รอด? วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ เพื่อช่วยให้ร้านค้าของคุณเอาชนะคู่แข่งขันได้ค่ะ 1. รู้ความเคลื่อนไหวของคู่แข่งขัน ก่อนอื่นคุณลองคิดวิเคราะห์ดูก่อนเลยว่า ในขณะนี้มีธุรกิจไหนที่เขาเป็นคู่แข่งขันของคุณบ้าง ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม เพราะคู่แข่งพร้อมเสมอที่จะแย่งลูกค้าไปจากคุณได้ทุกเวลา ดังนั้นการที่คุณรู้ความเคลื่อนไหว คุณจะเห็นว่าตอนนี้คู่แข่งกำลังทำอะไร เขากำลังดึงดูดหรือต้องการลูกค้าแบบไหน เมื่อคุณความเคลื่อนไหวคุณจะเตรียมรับมือได้ แต่ถ้าหากคุณไม่สนใจคู่แข่งเลย ก็เป็นสิ่งที่ต้องระวังเพราะคุณอาจจะเสียลูกค้าไปโดยไม่รู้ตัว 2. รู้จักลูกค้าของเรา รู้จักคู่แข่งแล้วแต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องทำทุกอย่างเหมือนที่คู่แข่งของเรานะคะ เนื่องจากลูกค้าเขากับลูกค้าเราอาจจะแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือ คุณต้องรู้จักลูกค้าของคุณให้ดีว่าเขาเป็นคนแบบไหน ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ทำอะไรแล้วลูกค้าให้ผลตอบรับดี เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยมัดใจให้ลูกค้าจงรักภักดีต่อแบรนด์ เกิดความประทับใจ และไม่เปลี่ยนใจไปหาคู่แข่งขันอย่างแน่นอนค่ะ 3. ขยายหรือต่อยอดธุรกิจ ถ้าอยากให้ธุรกิจเติบโต เราต้องคิดแล้วว่าธุรกิจที่เรากำลังทำอยู่ในขณะนี้สามารถต่อยอดทำอะไรได้อีกบ้าง เพื่อที่เราจะได้ขยายฐานลูกค้า ทำให้สินค้าหรือบริการที่ครอบคลุม ยิ่งถ้าคุณต่อยอดธุรกิจที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถได้ง่าย สะดวก และแก้ปัญหาของลูกค้าได้ คุณก็ได้รับผลตอบรับที่ดี แล้วถ้าหากเรามีมากกว่าของคู่แข่ง ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ลูกค้าจะเลือกใช้และเลือกซื้อสินค้าหรือบริการจากเราค่ะ 4. ทำให้ลูกค้าติดต่อง่าย สิ่งนี้สำคัญมาก ๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณตอบช้า ก็เสี่ยงที่จะเสียลูกค้าไปได้ทุกเมื่อเลยค่ะ นึกภาพง่าย ๆ ว่า ถ้าลูกค้าติดต่อทั้งเราและติดต่อกับคู่แข่งด้วย ถ้าบริษัทคู่แข่งตอบกลับลูกค้าได้ไวมากกว่าเรา เขาก็อาจจะปิดการขายได้ทันที […]