ปิดการขายไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ ทำคอนเทนต์จนลูกค้าสะดุดตาเกิดความสนใจได้แล้ว แต่จะทำยังไงให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ? แน่นอนเลยว่าเราต้องมี “กลยุทธ์” ค่ะ เพราะจะช่วยให้เราขายของออนไลน์ได้ง่ายขึ้น ใครอยากรู้ว่ามีกลยุทธ์อะไรบ้าง เราไปอ่านกันเลยค่ะ 1. โพสต์รูปภาพ พร้อมรายละเอียดสินค้าให้ครบถ้วน เมื่อลูกค้าจะซื้อสินค้าออนไลน์ สิ่งสำคัญที่ช่วยดึงดูดให้ลูกค้าสนใจนั้นก็คือ “รูปภาพ” ค่ะ หากเราทำรูปออกมาสวยก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจได้ดี แต่ถ้าคุณไม่กรอกรายละเอียดสินค้า เช่น ชื่อสินค้า วิธีใช้ ขนาด ราคา เป็นต้น แต่บอกให้ลูกค้าทักถามเพิ่มเติมทางแชท ลูกค้าอาจจะเกิดความหงุดหงิดและมีแนวโน้มที่สูงมากที่ลูกค้าจะออกไปจากร้านค้าของเราค่ะ ดังนั้นอย่าลืมไปเช็คสินค้าและกรอกรายละเอียดให้ครบนะคะ 2. พูดคุยอย่างเป็นมิตร ให้คำแนะนำแก่ลูกค้า เมื่อลูกค้าเข้ามาสอบถามข้อมูล การพูดคุยกับลูกค้าอย่างเป็นมิตรจะช่วยให้ลูกค้าประทับใจได้ดี แถมเรายังมัดใจลูกค้าได้ด้วยนะคะ หากเราสามารถให้คำแนะนำแก่ลูกค้าก็ช่วยมห้ร้านค้าของเราดูน่าเชื่อถือ และลูกค้าก็จะเชื่อในตัวเรา สินค้าและบริการของเราค่ะ 3. อย่าโพสต์ขายอย่างเดียว ทำคอนเทนต์อื่น ๆ ด้วย หากเราโพสต์ขายสินค้าอย่างเดียวและโพสต์บ่อย ลูกค้าอาจจะเบื่อหรือรำคาญได้นะคะ เพราะเราเน้นการขายมากเกินไป หากเรามีคอนเทนต์อื่น ๆ สอดแทรกมาบ้างจะช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงแบรนด์เราได้ง่าย และช่วยเพิ่ม engagment ให้แก่เพจของเราได้ดีเลยล่ะค่ะ 4. รีวิวจากลูกค้าก็สำคัญ แน่นอนเลยว่าหลายครั้งก่อนที่คนจะซื้อสินค้า มักจะหารีวิวก่อนตัดสินใจซื้อเสมอ ดังนั้นหากร้านค้าของคุณมีคะแนนรีวิวดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง […]
การให้บริการก็ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำ การช่วยเหลือแก่ลูกค้า ซึ่งหากคุณบริการได้ดีก็จะช่วยให้ร้านค้าของคุณมีภาพลักษณ์ที่ดี สร้างความประทับใจ ลูกค้าพึงพอใจ และช่วยให้ธุรกิจเราประสบความสำเร็จได้! . แต่การบริการก็มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย การดูแลลูกค้าหลังการขาย การให้ข้อมูลสินค้าต่าง ๆ แต่จะทำอย่างไรให้มัดใจลูกค้าได้? เรามาดูกันเลยค่ะว่าเราต้องให้บริการลูกค้าอย่างไรบ้าง 1. ทำให้การบริการดูสนุกและขี้เล่น สิ่งสำคัญคือเราควรเป็นมิตรกับลูกค้าค่ะ เพราะช่วยให้เข้าถึงคนได้ง่าย ลูกค้าเองก็จะรู้สึกว่าเราเป็นเหมือนเพื่อน ทำให้เขาไว้วางใจเรา พร้อมเข้ามาพูดคุยและสอบถามเราได้เสมอ หากแบรนด์ของเรามิตร แน่นอนเลยว่าลูกค้าต้องประทับใจเรามากแน่นอนเลยค่ะ 2. ปรับปรุงการให้บริการอยู่เสมอ แม้ว่าเราอาจจะให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่ แต่ก็อาจจะมีบางกรณีที่ลูกค้าเกิดการ “ไม่พอใจ” ซึ่งส่งผลทำให้ลูกค้าจะร้องเรียนกับเรา ให้คะแนนรีวิวไม่ดี ยิ่งถ้าแบรนด์เราเจอปัญหาข้อร้องเรียนแบบเดิมซ้ำ ๆ เราควรรีบแก้ไขปัญหานั้นให้เร็วมากที่สุด ไม่อยากนั้นถ้าเกิดมีลูกค้าใหม่ ๆ แล้วมาอ่านรีวิวละก็.. เราอาจจะเสียลูกค้าใหม่ไปโดยที่ยังไม่ได้พูดคุยกับเขาเลยก็ได้นะคะ 3. ส่งข้อความหรือบัตรของขวัญในโอกาสพิเศษ ถ้าแบรนด์คุณมีลูกค้าขาประจำ เมื่อถึงวันพิเศษ เช่น วันเกิด อย่าลืมที่จะส่งการ์ดบัตรของขวัญ หรือข้อความไปหาลูกค้าด้วยนะคะ เพราะการทำแบบนี้ช่วยสร้างความประทับใจได้มากเลยทีเดียว ส่วนลูกค้าเองก็จะรู้สึกว่าตัวเขาเป็น “คนพิเศษ” ด้วยค่ะ 4. สอนลูกค้าใน “สิ่งใหม่ ๆ” หากคุณขายสินค้าอะไรสักอย่างนึง อย่าลืมที่จะสอนวิธีการใช้งานให้แก่ลูกค้าเพราะไม่ใช่ว่าลูกค้าทุกคนจะต้องรู้วิธีใช้อยู่แล้ว […]
ช่วงสถานการณ์ COVID-19 แม่ค้าหลายรายอาจได้รับผลกระทบหลายอย่าง เช่น ขายสินค้าได้ลดลง ลูกค้าเก่าไม่กลับมาซื้อซ้ำ เป็นต้น แล้วเราจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร? วันนี้ SHIPPOP มีวิธีที่จะช่วยให้คุณรักษาฐานลูกค้าไว้ได้ ช่วยเพิ่มยอดขายและปิดการขายได้ง่ายขึ้นค่ะ 1. สร้างความเชื่อมั่นว่าร้านค้าของเราปลอดภัย นาทีนี้หลายคนคงกังวลว่าตัวเองจะติดโควิด ดังนั้นเราควรสร้างความเชื่อมั่นให้กับความลูกค้า โดยการออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าสบายใจ เช่น การฉีดพ่นฆ่าเชื้อ ให้พนักงานสวมหน้ากากอนามัย มีเจลแอลกฮอล์วางตามจุดต่าง ๆ ภายในร้าน และวัดอุณหภูมิร่างกายทุกคนที่เข้ามาภายในร้านค้า ที่สำคัญอย่าลืมเก็บภาพมาเพื่อทำคอนเทนต์บอกกับลูกค้าด้วยนะคะ ว่าเรามีมาตรการอย่างไร ลูกค้าจะได้เข้าซื้อสินค้าของเราได้อย่างอุ่นใจค่ะ 2. บริการด้วยใจ ไม่เน้นขายอย่างเดียว เคยเข้าไปในร้านค้าสักแห่งหนึ่งแล้วเจอพนักงานยิ้มแย้มให้คำแนะนำดีจนเราเกิดประทับใจมาก ๆ ไหมคะ? นั้นแหละค่ะจะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ลูกค้าติดร้านค้าของเรา เมื่อเราให้คำแนะนำกับลูกค้าดี ลูกค้าจะกลับมาถามและพูดคุยกันเราบ่อยมากขึ้น เมื่อลูกค้าประทับใจ ก็มีโอกาสที่จะปิดการขายและลูกค้านั้นจะรักแบรนด์ของเรามากขึ้น ไม่แน่อาจจะมีการบอกต่อกับคนอื่น ๆ เพิ่มด้วยนะคะ 3. จัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย ใคร ๆ ก็ชอบและรักโปรโมชัน การที่เราจัดโปรโมชันจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้มีประสิทธิภาพมากเลยขึ้น ไม่ว่าจะลดราคาแบบเป็นเปอร์เซ็น หรือซื้อ 1 แถม 1 ก็เห็นผลทุกรูปแบบ […]
ปี 2021 ใครที่ยังไม่เริ่มขายของออนไลน์ ต้องศึกษาอย่างจริงและต้องปรับตัวขายออนไลน์กันให้มากขึ้นนะคะ พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปมาก ทุกวันนี้อัตราการซื้อของออนไลน์ก็เติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ เลยค่ะ สำหรับใครที่ยังคิดไม่ออกว่าจะเริ่มต้นขายสินค้าอะไรดี ลองมาดูไอเดียสินค้ากันในบล็อกนี้ได้เลยนะคะ 1. อุปกรณ์กีฬา ฟิตเนสหลายแห่งปิดให้บริการชั่วคราว สินค้าอุปกรณ์กีฬาเป็นหนึ่งในสิ่งที่ขายดีมาก ๆ ในช่วงที่มีระบาดโควิดรอบแรก ในเวลานี้ผู้คนเริ่มอยู่บ้านกันมากขึ้นไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสก็ไม่ได้ การขายอุปกรณ์กีฬาก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจนะคะ ไม่ว่าจะเป็น เสื่อโยคะ ดัมเบล อุปกรณ์ยางยืด เชือกกระโดด เป็นต้น เพราะคาดว่าช่วงนี้ผู้คนคงเริ่มมองหาอุปกรณ์สำหรับออกกำลังกายภายในบ้านกันมากขึ้นค่ะ 2. เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เมื่อผู้คนเริ่ม Work from home ก็ต้องเริ่มมองหาโต๊ะและเก้าอี้สำหรับนั่งทำงาน และเขาก็จะเริ่มมองรอบตัวมากขึ้น เริ่มอยากหากิจกรรมภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งบ้าน หรือการทำอาหาร ดังนั้นอุปกรณ์่เครื่องครัวมีแนวโน้มที่จะขายดี เมื่อช่วงที่โควิดระบาดรอบแรกก็เกิดกระแสการทำบราวนี่ คนฮิตทำกันเยอะมาก ไม่แน่ว่าในช่วงนี้ผู้คนอาจจะสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ขึ้นมาอีกครั้งก็ได้นะคะ 3. หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในช่วงนี้ คือ หน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ค่ะ เป็นสิ่งปกติที่คนต้องพกติดตัวกัน ดังนั้นจึงเป็นสินค้าขายดีและมีความต้องการสูง ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากแบบผ้าหรือแบบกระดาษก็ขายดีทั้งนั้น หากเราผลิตเองก็อย่าลืมนำหน้ากากสำหรับ “เด็ก” มาขายด้วยนะคะ เพราะจะเป็นอีกทางเลือกที่ทำให้ร้านของเราดูพิเศษมากขึ้น […]
แม่ค้าออนไลน์ที่ขายของแต่ไม่ได้สร้างแบรนด์เป็นของตนเอง อาจจะต้องเจอปัญหาที่สินค้าของเราเหมือนกับร้านค้าอื่น ๆ ส่งผลให้ขายยากขึ้น คู่แข่งมีเยอะ เพราะฉะนั้นเราจะต้องสร้าง “ความแตกต่าง” ให้กับสินค้าของเราค่ะ เพื่อทำให้สินค้าของเรานั้นสะดุดตาและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้ค่ะ 1. สร้างความแตกต่างด้วยกล่องพัสดุ หากเรารู้สึกว่าสินค้าเป็นของที่เราอาจไม่ได้แตกต่างจากร้านค้ารายอื่นมากนัก เราก็สามารถสร้างความแตกต่างด้วยกล่องพัสดุได้นะคะ เพราะเมื่อลูกค้าได้รับของ สิ่งแรกที่ลูกค้านั้นก็คือ “กล่องพัสดุ” ค่ะ ถ้าเราส่งสินค้าแล้วใช้กล่องรูปแบบเดิมลูกค้าก็จะจดจำเราได้ ลองนึกภาพตามดูนะคะถ้ามีกองพัสดุวางรวมกันสัก 10 กล่อง ทุก ๆ กล่องมีหน้าตาเหมือนกันหมดก็ไม่ได้มีกล่องไหนโดดเด่นเลยใช่ไหมคะ แต่ถ้ากล่องพัสดุเป็นสีฟ้าสดใส พัสดุนั้นก็จะเป็นกล่องที่โดดเด่นมากที่สุดนั้นเองค่ะ แน่นอนเลยว่าถ้าลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำแล้วได้รับกล่องแบบเดิม ลูกค้าก็จะจำได้ทันทีว่าเป็นสินค้าจากร้านของเราค่ะ 2. สร้างความแตกต่างด้วยสก็อตเทป หากรู้สึกว่าการใช้กล่องจะต้องใช้ต้นทุนเพิ่ม เราขอแนะนำให้คุณเลือกใช้เป็น “สก็อตเทป” ค่ะ เพราะเป็นอุปกรณ์อย่างนึงที่เราจะต้องใช้ในการแพคของกันอย่างแน่ นอนเลย เราอาจจะใช้สก็อตเทปที่มีสีสันต่าง ๆ เพื่อให้กล่องดูสะดุดตาขึ้น หรือทำเป็นสีใสและมีชื่อของร้านค้า ก็ช่วยเพิ่มความโดดเด่นสร้างความแตกต่างให้กับกล่องพัสดุของเราได้เป็นดีเลยนะคะ 3. แนบการ์ดเล็ก ๆ ไว้ในกล่อง ไม่มีทั้งกล่องและไม่มีสก็อตเทปเลยจะทำยังไงดี? อีกหนึ่งทางเลือกที่เรามั่นใจว่าน่าจะทำตามได้ง่าย คือ การที่เราทำการ์ดเขียนข้อความแล้วแนบไว้ในกล่องพัสดุค่ะ เราอาจจะใช้กระดาษ A4 ธรรมดา แล้วพิมพ์ข้อความขอบคุณลูกค้าที่อุดหนุน เป็นเหมือนโน้ตเล็ก ๆ […]