เมื่อเราต้องการใช้รูปภาพผู้คนส่วนใหญ่มักจะเข้าไปค้นหารูปใน Google และนำไปใช้ทันทีซึ่งในความจริงแล้วรูปภาพที่อยู่ในโลกออนไลน์เราไม่สามารถที่จะนำมาใช้ได้ทั้งหมดนะคะเพราะในบางกรณีอาจจะ ติดลิขสิทธิ์บ้างนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ไม่ได้ แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะเพราะแน่นอนว่าในปัจจุบันนี้ยังมีเว็บไซต์ที่มีรูปภาพสวย ๆ อัดแน่นให้เราได้ดาวน์โหลดไปใช้ฟรีแบบที่ไม่ต้องนั่งในใจ เรื่องเสียค่าลิขสิทธิ์เลยจะมีอะไรน่าสนใจบ้างเราดูกันไปพร้อมกันเลย! 1. Unsplash Unsplash เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ดีที่สุด ซึ่งมีรูปภาพคุณภาพดีและมีให้เราเลือกใช้มากกว่า 1 ล้านภาพ ซึ่งรูปภาพนั้นมาจากช่างภาพที่มีทักษะมากกว่า 100,000 คน เราสามารถค้นหารูปภาพได้ตามที่เราต้องการ ที่สำคัญคือเราสามารถนำรูปภาพไปใช้งานได้ฟรี สามารถนำไปใช้เพื่อการค้าได้ด้วยนะ ถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่จำเป็นต้องให้เครดิตช่างภาพ แต่ขอแนะนำว่าให้ใส่เครดิตช่างภาพ อาจจะเป็นชื่อของช่างภาพหรือลิงก์ไปยังโปรไฟล์ของช่างภาพ เพื่อเป็นการขอบคุณค่ะ 2. Flickr Flickr เป็นเหมือนเครือข่ายโซเชียลมิเดียของช่างภาพมืออาชีพและช่างภาพมือสมัครเล่น เพราะเป็นการโพสต์รูปภาพที่เจ้าของสามารถตั้งค่าได้ว่าอัปโหลดเป็นส่วนตัวหรือสาธารณะ และเราจะสามารถค้นหารูปภาพได้ด้วยการพิมพ์สำคัญต่าง ๆ แต่สิ่งสำคัญที่เราต้องรู้ไว้คือ เว็บไซต์นี้เราไม่สามารถนำรูปมาใช้ฟรีทุกรูปนะ เพราะจริงๆเราไม่สามารถนำรูปไปใช้เพื่อการค้าได้ ดังนั้นรูปภาพในเว็บไซต์นี้จึงเหมาะกับการโหลดฟรีเพื่อนำรูปภาพไปประกอบบล็อกมากกว่าค่ะ 3. Shutterstock หนึ่งในเว็บไซต์ยอดนิยมที่หลายมักจะคุ้นเคยกันเป็นดี หากใครที่ต้องการรูปคุณภาพดีเพื่อนำไปประกอบสำหรับแคมเปญโฆษณา Facebook ก็ต้องไม่พลาดที่จะเข้าไปค้นหาภาพใน Shutterstock เพราะเขามีรูปภาพให้เราเลือกมากกว่า 300 ล้านภาพ โดยมีรูปภาพเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 200,000 รูป ซึ่งมีตั้งแต่ภาพประกอบ ภาพเวกเตอร์ ภาพผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และสำหรับผู้ที่ใช้งานครั้งแรกจะสามารถนำรูปภาพไปใช้งานได้ฟรี 10 รูป […]
ใครที่ได้ติดตามข่าวคงจะทราบกันแล้วว่าทาง Facebook & Instagram นั่นจะรวมแชทเข้าไว้ด้วยกัน แต่หากใครยังไม่ทราบสามารถเข้าไปอ่านได้ที่ : https://blog.shippop.com/dmblog/ สำหรับการรวมแชทในครั้งนี้นั่น เราสามารถเลือกได้นะคะว่าเราต้องการใช้ระบบแบบนี้หรือไม่ แต่ถ้าหากยังตัดสินใจไม่ได้หรือยังไม่เห็นถึงความสำคัญของการรวมแชทครั้งนี้ บทความนี้มีคำตอบค่ะ เพราะเราจะมาพูดถึงเรื่องของคุณสมบัติต่างๆ ว่าถ้าหากเราอัพเดทแล้วจะมีประโยชน์อย่างไรกับเราบ้าง? เมื่อเราทำการอัพเดทระบบแล้ว ไม่ใช่แค่ว่ารวมแชทแล้ว “จบ” นะคะ เพราะเขายังมี “ลูกเล่นใหม่ ๆ” ให้เราได้เล่นกันอีกเพียบเลย ไม่ว่าจะเป็น – เราสามารถทำสติ๊กเกอร์ที่เป็นรูปหน้าของเราได้ – ผู้ใช้งานสามารถดูวิดีโอร่วมกับเพื่อน ๆ ในระหว่างที่เราวิดีโอคอลกันได้ – มีโหมด Vanish ที่เราสามารถตั้งค่าให้ข้อความหายไปเมื่ออีกฝ่ายเปิดอ่าน – เพิ่มการไล่ระดับสีใหม่ในแชทของเราทั้งใน Messenger / Instagram – แชทหากันข้ามแอพได้ ไม่ว่าจะ Facebook & Instagram – สร้างทางลัดของอีโมจิที่เราชื่นชอบ เพื่อช่วยให้เราตอบแชทเพื่อนได้ไวยิ่งขึ้น – ส่งข้อความให้มีเอฟเฟกต์แบบเคลื่อนไหว – ตั้งค่าได้ว่าเราต้องการให้เพื่อนคนใดส่งข้อความหาเราได้บ้าง แน่นอนเลยการรวมแชทครั้งนี้ สำหรับคนทั่วไปและแม่ค้าออนไลน์ต้องจับตามอง เพราะว่าสิ่งนี้แหละจะช่วยให้การขายของเราง่ายขึ้น […]
การลงโฆษณาบน Facebook หลายคนอาจจะคิดว่าสามารถทำได้ง่าย ๆ แต่ความเป็นจริงนั้นกลับมีข้อจำกัดหลายอย่างที่ทำให้เราปวดหัวกันเลยทีเดียว เช่น ข้อจำกัดว่ารูปภาพที่จะลงโฆษณานั้น ในรูปภาพจะต้องมีข้อความไม่เกิน 20% เป็นต้น เพราะฉะนั้นเราจึงจำเป็นต้องวางแผนและออกแบบสื่อให้สอดคล้องกับกฎของทาง Facebook เพราะถ้าหากเราไม่ได้ทำตามกฎ โพสต์ของเราก็ไม่ได้รับอนุมัติให้ยิงโฆษณา แล้วทำไมถึงตั้งข้อจำกัดว่าข้อความห้ามเกิน 20% ? ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Facebook ได้ตั้งข้อสังเกตว่าผู้ใช้งานทั้ง Facebook และ Instagram ไม่ชื่นชอบโฆษณาที่มีข้อความในรูปภาพมากเกินไป ดังนั้นจึงได้ตั้งกฎดังกล่าวขึ้นมาเพื่อที่เวลาเราลงโฆษณาจะได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ล่าสุด! Facebook เตรียมยกเลิกกฎ “ข้อความในรูปภาพห้ามเกิน 20%” แล้ว นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวสำคัญสำหรับผู้ที่ทำคอนเทนต์ลงโฆษณาบน Facebook เนื่องจากมีรายงานว่า Facebook เตรียมยกเลิกข้อจำกัดการลงโฆษณาที่มี “ตัวอักษรห้ามเกิน 20%” ระบบการลงโฆษณาของ Facebook มีข้อจำกัดว่าในรูปภาพห้ามมีข้อความเกิน 20% หากเกินกว่าที่กำหนดจะไม่ได้รับการอนุมัติ เนื่องจากจะมีผลต่อประสิทธิภาพของโฆษณา ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง Facebook เองก็มีเครื่องมือที่ชื่อว่า “Text Overlay Tool” เพื่อให้เราได้ตรวจสอบว่ารูปภาพของเรานั้นมีตัวอักษรเกินกว่าที่กำหนดไว้หรือไม่ แต่เครื่องมือดังกล่าวจะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป ซึ่งแน่นอนว่าการลบข้อจำกัดนี้ออกไป […]
บริษัท ชิปป๊อป จำกัด (SHIPPOP) จับมือ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) จัดแคมเปญ SHIPPOP Digital Lending เพื่อสนับสนุนแหล่งเงินทุนในการดำเนินธุรกิจให้ผู้ประกอบการโซเชียลคอมเมิร์ซ ลดข้อจำกัดการเข้าถึงเงินกู้จากสถาบันการเงิน ด้วย “สินเชื่อมณีทันใจ เพื่อธุรกิจ” วงเงินอนุมัติสูงสุด 300,000 บาท ระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 36 เดือน ผ่อนสบายเฉลี่ยเพียงหมื่นละ 350 บาทต่อเดือน โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน และไม่ต้องส่งเอกสารเพิ่มเติม เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่อยู่บนแพลตฟอร์มมากถึง 30,000 ราย สามารถขอสินเชื่อได้อย่างสะดวก โดยสามารถเข้าร่วมแคมเปญได้ง่ายๆ เพียงลงทะเบียนกับ SHIPPOP มาแล้วเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน และมีการเดินบัญชีผ่านธนาคารไทยพาณิชย์อย่างต่อเนื่องในรอบ 3 เดือนล่าสุดเท่านั้น ซึ่งสินเชื่อดังกล่าวจะช่วยเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการสามารถขยายธุรกิจได้อย่างเต็มศักยภาพรองรับทิศทางโซเชียลคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 31 ธันวาคม 2564 ทั้งนี้ ผู้ค้าออนไลน์ที่สนใจสามารถสมัคร “สินเชื่อมณีทันใจ เพื่อธุรกิจ” ได้ง่ายๆ เพียง 4 ขั้นตอน ดังนี้ […]
โพสต์ขายของที่ไหนดี? SHIPPOP มีคำตอบ! สำหรับพ่อค้าแม่ค้า สิ่งที่เรามักจะคิดอยู่เสมอ คือ เราจะขยายธุรกิจยังไง? ทำยังไงให้ยอดขายเพิ่มขึ้น? แน่นอนเลยว่าสิ่งสำคัญ คือ เราต้องทำการขยายตลาด ทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้าเห็นสินค้าของเราให้ได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นการขายของออนไลน์คืออีกทางเลือกที่เราไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ SHIPPOP ขอแนะนำ 5 เว็บไซต์ที่เราสามารถไปโพสต์ขายของได้ “ฟรี” จะมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ 1. Shopee เว็บไซต์ชอปปิ้งออนไลน์ยอดนิยมที่หลายคนคุ้นชินกันเป็นอย่างดี นับได้ว่าเป็นเว็บอันดับต้น ๆ ที่คนนิยมใช้กันเป็นอย่างมาก สำหรับใครที่อยากขายของ ก็ต้องบอกได้เลยว่าเขาเปิดพื้นที่ให้แม่ค้าได้ขายของ “ฟรี” ไม่ต้องเสียค่าแรกเข้าและค่าคอมมิชชั่น แต่ถ้าหากสมัครเป็น Shopee Mall (เหมาะกับแบรนด์ official ได้รับการการันตีจาก Shopee) จะต้องเสียค่าคอมมิชชั่นในการขายสินค้า ซึ่งสินค้าแต่ละประเภทจะมีเกณฑ์การหักเปอร์เซ็นที่แตกต่างกันค่ะ ข้อดีที่ขายผ่านทางเว็บ คือ เขามีแคมเปญที่ดึงดูดลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ทำให้มีลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ถ้าเราลงรายละเอียดสินค้าพร้อมรูปภาพสวย ๆ ที่ดึงดูดลูกค้า รับรองได้เลยว่า ยอดขายปังอย่างแน่นอน! 2. Lazada อีกหนึ่งเว็บไซต์ที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ เพราะได้รับความนิยมไม่แพ้กับ […]
สำหรับคนขายของออนไลน์ เมื่อถึงวันที่เรามีออเดอร์เยอะจนเริ่มเกิดปัญหาในการขาย ไม่ว่าจะเป็น จำนวนสต๊อกไม่ตรงกับความเป็นจริง แพ็คของไม่ทัน พื้นที่เก็บของไม่พอ แบกพัสดุไปที่ขนส่งไม่ไหว เป็นต้น เรามักจะมองหาตัวช่วยที่จะเข้ามาจัดการให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าในปัจจุบันนี้มีบริการที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องมานั่งปวดหัวอีกต่อไป เพราะทุกอย่างจะสามารถจัดการได้ในระบบออนไลน์ ทำให้เราทำงานได้ง่าย ข้อมูลมีความแม่นยำ วันนี้ SHIPPOP จะพาคุณไปรู้จักกับบริการเหล่านี้ เพื่อให้คุณเข้าใจระบบมากขึ้น และเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม เราไปดูกันเลยค่ะว่าจะบริการอะไรบ้าง 1 บริการระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ สำหรับแม่ค้าออนไลน์ที่ขายของหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Shopee ฯลฯ แล้วมียอดออเดอร์เข้ามาถล่มทลาย คุณอาจจะเจอกับปัญหาที่น่าปวดหัว เช่น ออเดอร์ตกหล่น จำนวนสต๊อกสินค้าคลาดเคลื่อน การสรุปยอดให้กับลูกค้า เรียกได้ว่าถึงกับต้องปวดหัวกันเลยทีเดียว แต่คุณรู้ไหมว่าจริง ๆ แล้วยังมีบริการ “ระบบการจัดการร้านค้าออนไลน์” ที่เข้ามาช่วยให้การขายของคุณง่ายขึ้นนะ ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ คือ ระบบที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาแม่ค้า เพราะในระบบนี้จะมีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การขายคุณทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น รวบรวมแชทลูกค้าไว้ในที่เดียว, อัพเดทสต๊อกแบบเรียลไทม์, แยกหมวดหมู่และประเภทของสินค้า, บันทึกข้อมูลลูกค้า, ดึงออเดอร์ขณะไลฟ์สด เป็นต้น 2 บริการเก็บ-แพ็ค-ส่ง […]