แม่ค้า “สายมู” หรือมูเตลูต้องห้ามพลาด ใครที่กำลังเครียดยอดขายตกหรืออยากได้ยอดขายเพิ่ม รับทรัพย์กันแบบปัง ๆ นาทีต้องพึ่งคาถากันแล้วนะ แต่ แต่ แต่ การสวดมนต์ก็เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นนะคะ สิ่งสำคัญอยู่ที่ตัวบุคคลการวางแผนการทำธุรกิจด้วยน้า จำหน่ายสินค้าดีมีมาตรฐาน บริการประทับใจ ยิ่งช่วยเสริมให้ธุรกิจรุ่งเรืองนะคะ คาถาขายของดี ตั้งนะโม 3 จบ อมเฐิบฯ มะ หา เฐิบฯ สาระพัดเฐิบฯ สะ วา หะฯ (“เฐิบ” เป็นคำโบราณ อ่านว่า “เทิบ”) สวด 9 จบ ก่อนเปิดร้านขายของประจำ เพื่อให้การค้ารุ่งเรืองได้กำไรงาม มีแต่ความราบรื่น ร่ำรวย และรุ่งเรืองยิ่งขึ้น ให้เสกน้ำ 108 จบ พรมของขายดี จะใช้บูชาแม่นางกวักก็ได้ด้วย คาถาบูชาเงิน อิติบูชามหาราชา สัพพะเสน่ห์หา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ มามา ยาตรายามดี วันชัยมารศรี สวัสดีลาโภ นะโมพุทธายะ. คาถาบูชาเงิน […]
หากคุณขายของบนโลกโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter แต่ยังไม่ได้ทำการตลาดด้วยการให้ลูกค้า “แท็กหา” แสดงว่าตอนนี้คุณกำลัง “พลาดโอกาส” สำคัญเลยค่ะ ในทุกแพลตฟอร์มผู้บริโภคมักจะชื่นชอบการโพสต์รูป อัปเดตสถานะ คอมเมนต์บนความคิดเห็นกันอยู่ตลอดเวลา โซเชียลมีเดียถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถแบ่งปันเรื่องราวชีวิตของตนเองได้อย่างอิสระ ซึ่งแบรนด์ควรให้ความสำคัญกับสิ่งนี้และใช้สิ่งนี้ให้เป็นประโยชน์ค่ะ เพราะเราสามารถใช้เพื่อทำการตลาด ทำการโฆษณาได้ค่ะ ลูกค้าแท็กหาเราด้วยวิธีใดบ้าง? 1. ลูกค้าเมนชั่น (mention) หรือ @กล่าวถึง ร้านค้าของเรา เป็นหนึ่งในวิธีที่เชื่อมบัญชีธุรกิจกับบัญชีบุคคลโดยผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “@ กล่าวถึง” ชื่อของโปรไฟล์บัญชีนั้น ๆ ซึ่งอาจจะกล่าวถึงเราในช่องคำอธิบายภาพ หรือช่องแสดงความคิดเห็นก็ได้ค่ะ 2. การแท็กรูปภาพ การแท็กรูปภาพเป็นกระบวนการที่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียจะระบุบุคคลหรือธุรกิจในโพสต์โดยการเชื่อมต่อรูปภาพกับโปรไฟล์อื่น ตัวอย่างเช่น หากรูปภาพเป็นของเพื่อนสองคน คนหนึ่งสามารถอัปโหลดรูปภาพในบัญชีของพวกเขาและแท็กอีกคนหนึ่งได้ เพื่อนคนที่สองจะได้รับการแจ้งเตือนว่าพวกเขาถูกแท็กในรูปภาพ และสามารถเลือกได้ว่าจะโพสต์ด้วยตนเองหรือไม่ เมื่อผู้ใช้แท็กหาบัญชีธุรกิจ พวกเขาสามารถวางแท็กที่ใดก็ได้บนหน้าผู้ติดตามและเพื่อนๆ ของพวกเขาจะสามารถเห็นลิงก์ไปยังธุรกิจและคลิกที่โปรไฟล์เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม 3. ใช้แฮชแท็ก เป็นการขึ้นต้นด้วยสัญลักษณ์ # แล้วตามด้วยข้อความ เช่น #SHIPPOP #ชิปป๊อบ เป็นต้น แฮชแท็กจะทำให้อัลกอริธึม Instagram, Facebook และ […]
การทำธุรกิจออนไลน์ หากมีแค่ช่องทางใดช่องทางหนึ่งอาจทำให้ธุรกิจสูญเสียโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันผู้ประกอบการมักจะมีหลายช่องทางในการเข้าถึงลูกค้า เมื่อมีช่องทางการขายที่หลากหลายแล้ว สิ่งต่อมาย่อมเป็นเรื่องของ “การเงิน” ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ของธุรกิจเลยทีเดียว สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ การมีช่องทางรับเงินที่หลากหลาย ถือว่าเป็นทางเลือกให้กับผู้ซื้อและยังช่วยดึงดูดให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากยิ่งขึ้นด้วย 1. การเก็บเงินปลายทาง (Cash on Delivery) หรือการเก็บ COD ลูกค้าหลายรายมักจะชอบสั่งซื้อสินค้าด้วยการเก็บเงินปลายทาง เพราะต้องการความเชื่อมั่นว่าเขาจะได้รับสินค้าอย่างแน่นอน แต่ขณะเดียวกันทางฝั่งของแม่ค้าก็อาจจะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง เนื่องจากในบางครั้งลูกค้าบางรายจะไม่รับสินค้าและทำการตีสินค้ากลับ สำหรับการเก็บเงินปลายทางนั่นแม่ค้าจะต้องทำการเสียค่าธรรมเนียมให้กับบริษัทขนส่งพัสดุ ซึ่งในแต่ละบริษัทจะมีเงื่อนไขและค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องทำการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้น 2. บริการการการโอนเงิน เป็นช่องทางการรับชำระเงินที่ทั้งผู้ประกอบการและลูกค้าคุ้นชินกันเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นการชำระเงินในรูปแบบที่ใช้งานกันเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งโดยทั่วไปธุรกิจต่าง ๆ มักจะเลือกใช้วิธีนี้ในการรับชำระเงิน เพราะได้รับเงินสดเข้าบัญชีทันที และเป็นการรับเงินก่อนจัดส่งสินค้า ไม่มีความเสี่ยงที่จะโดนสินค้าตีกลับ 3. รับชำระเงินผ่านบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต ช่องทางนี้แม้ว่าจะสะดวกทั้งต่อผู้ซื้อและผู้ขาย แต่ก็อาจจะมีผู้ขายบางรายที่ไม่ค่อยชอบมากนัก เนื่องจากเสียค่าธรรมเนียม แต่โดยส่วนใหญ่แล้วถ้าคุณขายสินค้าผ่านทาง Marketplace ช่องทางเหล่านี้จะมีระบบดังกล่าวเตรียมไว้ให้อยู่แล้ว แต่ถ้าคุณขายผ่านเว็บไซต์ของตนเอง ก็อาจจะต้องทำ Payment Gateway เอง ซึ่งปกติแล้วถ้าไม่ใช่เว็บไซต์ที่ใหญ่มากนักมักจะไม่นิยททำกัน เนื่องจากมีต้นทุนสูง นอกจากนีเ ยังมีช่องทาง e-Wallet, PayPal ฯลฯ […]
ใกล้จะหมดปี 2021แล้วนะคะ แม่ค้าออนไลน์หรือเจ้าของธุรกิจจะต้องเตรียมตัวรับมือและวางแผนการขายสำหรับปี 2022 ที่กำลังจะมาถึงกันแล้ว สำหรับธุรกิจใดที่วางแผนกันแล้วเรียบร้อย เรามาดูกันดีกว่าค่ะในปี 2022 ธุรกิจของเราไม่ควรทำอะไรบ้าง 1. ละเลยหรือมองข้ามคู่แข่งขัน ปัจจุบันอีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป หันมาซื้อออนไลน์กันมากขึ้น แน่นอนเลยว่าหลายธุรกิจก็ปรับตัวและหันมาขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เช่นเดียวกัน ดังนั้นหากคุณกำลังขายออนไลน์ คุณเคยลองสำรวจร้านค้าคู่แข่งของคุณบ้างหรือไม่ ว่าคู่แข่งเขากำลังขายสินค้าอะไร ราคาเท่าไหร่ มีกิจกรรมอะไรที่เล่นกับลูกค้าอยู่บ้างหรือไม่ การสำรวจคู่แข่งขัน เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกธุรกิจไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ เนื่องจากหากเราช้ากว่าคู่แข่งไปสักหนึ่งก้าว ก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะหลุดมือและหันไปหาคู่แข่งขันในทันที ดังนั้นคุณจะต้องเริ่มทำการศึกษาคู่แข่งขันให้มากขึ้น นำมาวิเคราะห์ และนำมาวางแผนว่าธุรกิจของเราจะรับมือกับคู่แข่งขันอย่างไรบ้าง และทำการศึกษาว่ามีอะไรบ้างที่คู่แข่งทำแต่ได้ผลไม่ดี เราก็ควรที่จะหลีกเลี่ยง 2. ไม่รักษาลูกค้าเก่า ขายสินค้าได้แล้วก็อย่าปล่อยผ่านนะคะ การรักษาฐานลูกค้าก็สิ่งสำคัญและจำเป็นมากเดียวกัน เพราะคุณควรบริหารร้านค้า จัดการระบบให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ บอกต่อเพื่อนหรือคนใกล้ตัว มีหลายธุรกิจเลยค่ะที่เมื่อขายสินค้าได้ก็ปล่อยปะละเลย ทำให้ลูกค้าเกิดความไม่พอใจ ซึ่งส่งผลเสียต่อแบรนด์เป็นอย่างมากเนื่องจากลูกค้าจะรีวิวว่าแบรนด์ของเราไม่ใส่ใจลูกค้า บริการหลังการขายไม่ดี สิ่งเหล่านี้จะส่งผลในระยะยาว หากมีลูกค้าใหม่ที่กำลังตัดสินใจซื้อสินค้าจากร้านค้าของเรา เขาอาจจะทำการค้นหารีวิวจากลูกค้าคนเก่า เมื่อเขาเจอรีวิวไม่ดีเขาจะตัดสินใจไม่ซื้อในทันที ดังนั้นไม่ว่าจะลูกค้าเก่าหรือลูกค้าใหม่เราควรให้ความสำคัญเท่ากันและให้บริการด้วยใจค่ะ 3.ไม่สอบถามความคิดเห็นจากลูกค้า ลูกค้าของเราคือแหล่งข้อมูลที่ดีที่แบรนด์สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาต่อยอดได้หลายอย่างเลยค่ะ โดยการสอบถามอาจจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสินค้าออกใหม่ บริการหลังการขาย หรือความประทับ ข้อแนะนำที่ลูกค้าอยากให้กับแบรนด์ ในยุคสมัยนี้การสอบถามลูกค้าไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไปเลยค่ะ เพราะเรามีอินเทอร์เน็ตที่เข้าถึงคนได้วงกว้าง หากกังวลว่าลูกค้าไม่อยากเข้าร่วมกิจกรรมตอบคำถามก็ลองเปลี่ยนเป็นวิธีสนุก เช่น […]
เทศกาลวันหยุดที่หลายคนเฝ้ารอคอยใกล้จะมาถึงแล้วนะคะ ธุรกิจต่าง ๆ ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนถึงวันเทศกาล เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ลูกค้ามักจะซื้อสินค้ากัน ไม่ว่าจะเป็นของขวัญให้ตัวเอง ให้เพื่อน ให้ครอบครัว บอกเลยว่าร้านค้าต้องเตรียมพร้อมรับออเดอร์กันทุกเวลา ดังนั้นทำการวางแผนทุกอย่างไว้ล่วงหน้า เพื่อที่จะได้บริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1. วางแผนคอนเทนต์ไว้ล่วงหน้า เมื่อใกล้ถึงเทศกาลวันหยุดยาว คุณจะต้องทำการวางแผนไว้ล่วงหน้าว่าในแต่ละวัน แต่ละช่วงเวลา จะโพสต์เนื้อหาแบบใดบ้าง จะตกแต่งรูปภาพหรือวิดีโอ เลือกเสียงเพลง เป็นสไตล์แบบไหนถึงจะเข้ากับเทศกาลและเหมาะกับแบรนด์ของเรา การวางแผนไว้ล่วงหน้ามีข้อดีหลายอย่างเลยค่ะ เราจะมีความสม่ำเสมอในการโพสต์ มีเวลาคิดเนื้อหาหลากหลายรูปแบบ แต่ถ้าคุณไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า ก็จะทำให้คุณเสียโอกาสไปหลายอย่าง ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไรก็อย่าลืมที่จะวางแผนไว้ล่วงหน้านะคะ 2. นำเสนอสิทธิพิเศษหรือโปรโมชั่น เมื่อถึงเทศกาลสำคัญ ๆ เรามักจะพบเห็นแบรนด์ต่าง ๆ พากันจัดโปรโมชั่นหลากหลายรูปแบบเลยใช่ไหมคะ ยกตัวอย่างเช่น เทศกาล Black Friday ที่แบรนด์ดังลดราคากันกระหน่ำ สร้างยอดขายไปได้เยอะกันเลยทีเดียว ดังนั้นแบรนด์ของเราเองก็ต้องทำการวางแผนไว้ค่ะว่าในแต่ละเทศกาลเราจะเสนอสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้า ซึ่งปัจจุบันก็สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การให้คูปองส่วนลด ซึ่งในส่วนนี้หากเรานำเสนอคูปองให้แก่ลูกค้า ก็อย่าลืมคำนวณงบประมาณ และกำหนดรายละเอียด แจ้งลูกค้าให้ชัดเจนด้วยนะคะ Buy 1 Get 1 Free หรือโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม […]