SHIPPOP, Author at SHIPPOP - Page 19 of 43
SHIPPOP มอบโปรโมชั่นราคาพิเศษ!! KERRY EXPRESS ตลอดเดือนเมษายนนี้

SHIPPOP มอบโปรโมชั่นราคาพิเศษ!! KERRY EXPRESS ตลอดเดือนเมษายนนี้

SHIPPOP มอบโปรโมชั่นพิเศษเมื่อจัดส่งพัสดุผ่านขนส่ง KERRY EXPRESS  ซึ่งโปรโมชั่นครั้งนี้จะมีผลตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่  30 เมษายน 2564 *  ลูกค้าทุกท่านสามารถตรวจสอบราคาค่าส่งพัสดุและเงื่อนไขเบื้องต้นของขนส่ง KERRY EXPRESS ได้ที่รายละเอียดด้านล่าง ดังนี้ เงื่อนไขเบื้องต้น ผู้ใช้บริการจะต้องนำสินค้าไปส่งที่สาขา Kerry Express (Parcel Shop) เท่านั้น ขนาดพัสดุ (กว้าง+ยาว+สูง) ต้องไม่เกิน 180 ซม. โดยด้านใดด้านหนึ่งไม่เกิน 100 ซม. และน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม มาตรฐานการให้บริการ สำหรับการจัดส่งภายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล หรือภายในภูมิภาคเดียวกันจะจัดส่งภายในวันถัดไป หากเป็นการจัดส่งต่างภูมิภาคจะจัดส่งภายใน 1-2 วัน ภูมิภาค : กรุงเทพฯและปริมณฑล ได้แก่ กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ ภูมิภาค : ภาคกลาง ได้แก่ เพชรบุรี, กาญจนบุรี, นครนายก, […]

ออเดอร์เยอะจนส่งของไม่ทัน ทำยังไงดี?

ออเดอร์เยอะจนส่งของไม่ทัน ทำยังไงดี?

ช่วงนี้คนเข้ามาขายของออนไลน์กันเยอะมากเลยค่ะ บางรายเรียกได้ว่าออเดอร์ถล่มทลายกันเลยทีเดียว แต่เมื่อมีออเดอร์ยอดคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก แม่ค้าส่วนใหญ่จะเจอกับปัญหาแบกกล่องพัสดุไปส่งของไม่ไหว หรืออาจจะเจอปัญหาส่งของไม่ทัน เขียนใบปะหน้าไม่ไหว แต่ทุกปัญหามีทางออก เรามาดูกันค่ะว่าจะจัดการกับปัญหาน่าปวดหัวเหล่านี้อย่างไร 1. แบ่งสต๊อกสินค้าให้เป็นหมวดหมู่ชัดเจน สิ่งสำคัญที่สุด คือ เราต้องบริหารคลังสินค้าของเราให้ดีค่ะ เพราะถ้าหากเราวางสินค้าตามใจเวลาจะหาของมาแพคจะวิ่งกันวุ่นวายเพราะหาของไม่เจอ! ดังนั้นการจัดระเบียบและแบ่งโซนให้ชัดเจนจะช่วยให้เราหยิบสินค้าได้ไวขึ้น ถ้ายังเป็นมือใหม่พึ่งเริ่มต้น อาจจะยังไม่มีชั้นวางของแต่ก็ยังแนะนำว่าให้แบ่งแยกสินค้าให้เป็นหมวดหมู่ดีกว่าค่ะ แบ่งโซนพื้นที่เก็บของเราให้ชัดเจนว่าในแต่ละโซนจะจัดวางสินค้าประเภทอะไร การทำแบบนี้มีประโยชน์ในการนับสต๊อกด้วยนะคะ ช่วยป้องกันสต๊อกขาดซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราเสียโอกาสในการขายด้วยค่ะ 2. ลดขั้นตอนงาน ทำทุกอย่างให้ไวขึ้น ปกติแล้วเวลาเราจะส่งสินค้าเราจะต้องใช้เวลาเยอะเลยใช่ไหมคะ ทั้งเดินไปหยิบของ ห่อบับเบิ้ล แถมยังต้องเขียนใบปะหน้าอีก แต่ถ้ามี “ระบบของ SHIPPOP” เข้ามาช่วยก็จะทำให้ลดระยะเวลาไปได้ค่ะ โดยการที่เราเอาข้อมูลลูกค้าพิมพ์เข้าระบบ หรือแค่ Copy ข้อความที่ลูกค้าส่งให้ ก็ไม่ต้องเสียเวลามาเขียนใบปะหน้าอีกต่อไป เมื่อเราเอาข้อมูลเข้าระบบเราก็แค่ปริ้นท์ใบปะหน้าออกมา แล้วแปะที่หน้ากล่องพัสดุได้ทันทีเลยค่ะ เป็นการลดระยะเวลา ที่สำคัญยังช่วยป้องกันข้อมูลผิดพลาดด้วยนะคะ เพราะปกติถ้าใช้มือเขียน พนักงานขนส่งก็จะเจอปัญหาอ่านลายมือไม่ออก ทำให้จัดส่งล่าช้าได้ค่ะ 3. ใช้บริการ Drop-off ธรรมดาถ้าเราไปส่งของที่สาขาของไปรษณีย์ เราอาจจะต้องกดบัตรรอคิวนาน ทำให้เราเสียเวลา ที่สำคัญการรอนาน ๆ ถ้าเราไปไม่ทันเวลาช่วงที่เขาตัดรอบส่งพัสดุก็จะทำให้เราพัสดุของเราถึงมือลูกค้าช้าด้วยนะคะ แต่ถ้าเราเลือกใช้บริการ Drop-off เราจะมีเวลาเพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะเพราะว่าไม่ต้องต่อแถวแล้ว […]

SHIPPOP มอบโปรโมชั่นพิเศษ ninjavan 1 กิโลกรัมแรก เริ่มต้นเพียง 19 บาท

SHIPPOP มอบโปรโมชั่นพิเศษ ninjavan 1 กิโลกรัมแรก เริ่มต้นเพียง 19 บาท

SHIPPOP มอบโปรโมชั่นพิเศษเมื่อจัดส่งพัสดุผ่านขนส่ง ninja van  โดยมีค่าจัดส่งพัสดุเริ่มต้นเพียง 19 บาท ซึ่งโปรโมชั่นครั้งนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 เป็นต้นไป*  ลูกค้าทุกท่านสามารถตรวจสอบราคาค่าส่งพัสดุและเงื่อนไขเบื้องต้นของขนส่ง ninja van ได้ที่รายละเอียดด้านล่าง ดังนี้ พร้อมกับปรับพื้นที่เข้ารับสำหรับต่างจังหวัด ดังนี้ > คลิกเพื่อตรวจสอบ เงื่อนไขเบื้องต้น ทางขนส่งจะเข้ารับเฉพาะกรุงเทพฯ ปริมณฑล สมุทรสาคร (ยกเว้น รหัสไปรษณีย์ 74131), สมุทรสงคราม, นครปฐม และจังหวัดอื่นๆที่ระบุตามเอกสารแนบท้าย โดยไม่มีขั้นต่ำในการเข้ารับ และจัดส่งพัสดุทุกวันจันทร์-เสาร์ (ยกเว้นวันหยุด)  ราคาค่าขนส่งข้างต้นคิดตามปลายทาง  กรุงเทพ/ปริมณฑล เฉพาะปลายทางพื้นที่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ เท่านั้น ต่างจังหวัด ปลายทางพื้นที่จังหวัดอื่นที่ไม่ได้อยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล ขนาดพัสดุที่รับ กว้าง+ยาว+สูง ไม่เกิน 180 ซม. ด้านที่ยาวที่สุดไม่เกิน 100 ซม. และน้ำหนักไม่เกิน 20 กก. กรณีส่งมากกว่า 20 […]

เคล็ด (ไม่) ลับ ช่วยให้ยอดขายพุ่ง

เคล็ด (ไม่) ลับ ช่วยให้ยอดขายพุ่ง

ขายของออนไลน์อย่างไรให้ยอดขายพุ่ง? โพสต์ขายสินค้าเป็นเรื่องง่ายค่ะ แต่การทำให้ยอดขายปัง ๆ นี่สิที่เป็นสิ่งที่ยากและท้าทายมากสำหรับคนขายของ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีทริคเล็ก ๆ ที่จะช่วยให้คุณขายของได้นะคะ 1. บอกรายละเอียดให้ชัดเจน เมื่อคุณโพสต์สินค้าขาย สิ่งสำคัญคือรูปภาพต้องน่าดึงดูดจนสะดุดตาลูกค้า แต่รองลงมาคือ “ข้อความ” ค่ะ เพราะเมื่อลูกค้าชอบรูป เขาจะอยากรู้รายละเอียดเพิ่มทันที ดังนั้นเราจะต้องเขียนทุกอย่างให้ชัดเจนชนิดที่ว่าลูกค้าไม่ทักถามเราเพิ่มเติม ไม่ว่าเป็น สี ขนาด วัตถุดิบหรือวัสดุ รวมถึงราคาสินค้า และค่าส่งค่ะ เขียนทุกอย่างให้ครบถ้วน เมื่อลูกค้าเห็นข้อมูลครบ เขาก็จะเข้าสู่กระบวรการตัดสินใจทันทีว่าเขาจะซื้อหรือไม่ แต่ถ้าหากเราไม่เขียนรายละเอียดไว้เลย ก็มีโอกาสสูงที่ลูกค้าจะไม่เข้ามาสอบถาม แถมยังออกจากร้านเราไปเลย ทำให้เราเสียโอกาสในการขายนั่นเองค่ะ 2. ทำให้ลูกค้าเห็นถึง “ประโยชน์” สินค้าทุกอย่างมักจะมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานค่ะ แต่เราก็ต้องเน้นย้ำให้ลูกค้าเห็นความสำคัญด้วยนะคะว่าถ้าเขาซื้อสินค้าไป เขาจะสามารถใช้งานอะไรได้บ้าง เช่น เราขายตู้เย็น เราก็ต้องบอกว่าเครื่องเราดียังไง ช่วยให้เขาเก็บของสดได้นานขึ้นนะ หรือสามารถดูดกลิ่นอาหารไม่พึงประสงค์ได้ เป็นต้น การทำแบบนี้ก็จะช่วยให้ลูกค้าเห็นว่าเขาจะได้รับอะไรบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งกระตุ้นที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ 3. ใช้คำพูดที่ให้รู้สึก “มีความรู้สึกร่วม” ในบางครั้งเวลาลูกค้าเห็นสินค้าในโลกออนไลน์ เขาก็คงนึกภาพไม่ออกว่าแล้วสินค้าเป็นยังไง นั้นจึงเป็นสาเหตุที่เราต้องทำให้ลูกค้ามีอารมณ์ร่วมนั่นเองค่ะ เช่น ถ้าเราขายอาหารอย่างไก่ทอด เราอาจจะใช้คำว่า กรอบนอกนุ่มใน […]

เทคนิคจัดการสต๊อกอย่างมืออาชีพ

เทคนิคจัดการสต๊อกอย่างมืออาชีพ

แม่ค้าออนไลน์ที่ทำการสต๊อกสินค้า อาจจะเจอปัญหาน่าปวดหัว เช่น สต๊อกขาด จำนวนสินค้าจริงกับเลขในสต๊อกไม่เหมือนกัน ซึ่งอาจทำให้เราเสียโอกาสในการขาย ข้อมูลคลาดเคลื่อนสูง ต้องทำการเช็กข้อมูลซ้ำไปซ้ำมาอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเราจัดการสต๊อกอย่างมืออาชีพ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป 1. จัดระเบียบสินค้า แบ่งโซนหรือหมวดหมู่ให้ชัดเจน หากร้านค้าของคุณขายสินค้าหลายประเภทแล้วยังวางสินค้าผสมกัน ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องลุกขึ้นมาเพื่อจัดระเบียบใหม่แล้วนะคะ เพราะในอนาคตหากคุณขายสินค้าเยอะมากกว่านี้คุณจะลำบากในการหาสินค้าอย่างแน่นอนค่ะ ที่สำคัญยังทำให้คุณเสียเวลาในการรื้อค้นด้วย คุณควรแบ่งสินค้าอย่างชัดเจน จัดหมวดหมู่สินค้า สินค้าที่เหมือนกันให้วางอยู่ด้วยกันเพื่อเป็นการแบ่งโซน สิ่งนี้จะช่วยให้ร้านค้าของคุณดูเป็นระเบียบและง่ายต่อการค้นหาด้วยนะคะ 2. เลิกจดมือ ใช้โปรแกรมหรือเทคโนโลยีเข้ามาช่วย บันทึกสต๊อกด้วยการจดมือสามารถทำได้นะคะ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณมีข้อมูลเยอะคุณจะเริ่มเขียนไม่ไหว หากให้คนอื่น ๆ มาช่วยด้วยก็อาจจะเจอปัญหาอ่านมือไม่ออก หรือข้อมูลไม่เป็นระเบียบ ดังนั้นคุณควรใช้โปรแกรมเข้ามาช่วยบริหารจัดการเพื่อง่ายต่อการค้นหาข้อมูล และสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ได้ด้วยนะคะ เช่น โปรแกรม Excel ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ทุกคนคุ้นชินกันดีอยู่แล้ว หรือถ้าอยากให้เป็นแบบออนไลน์ก็แนะนำให้เลือกใช้ Google Sheet ค่ะ เพราะไฟล์งานจะบันทึกให้อัตโนมัติ สามารถเข้ามาแก้ไขงานได้พร้อมกันหลายคน หรือจะตั้งค่าให้เราแก้ไขข้อมูลคนเดียวก็สามารถทำได้ค่ะ 3. เช็กจำนวนสต๊อกสินค้าให้สม่ำเสมอ จำนวนสต๊อกคงคลังเป็นสิ่งที่สำคัญมากของการนับสต๊อกเลยค่ะ ข้อมูลควรจะถูกต้องแม่นยำเพื่อที่เราจะได้วางแผนการจัดการสต๊อก เช่น การสั่งสินค้ามาเติมสต๊อก หรือสินค้าที่มีปริมาณมากเกินไปเราจะระบายของออกอย่างไร เป็นต้น เรานับสต๊อกเพื่อเช็กความถูกต้องจึงเป็นสำคัญที่เราไม่ควรละเลยค่ะ หากเราสามารถทำระบบนับจำนวนได้ถูกต้อง การบริหารสินค้าก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพ 4. […]