เทคนิคการจัดการสต๊อกที่จะช่วยให้คุณบริหารระบบได้อย่างมืออาชีพ

แม่ค้าออนไลน์ที่ทำการสต๊อกสินค้า อาจจะเจอปัญหาน่าปวดหัว เช่น สต๊อกขาด จำนวนสินค้าจริงกับเลขในสต๊อกไม่เหมือนกัน ซึ่งอาจทำให้เราเสียโอกาสในการขาย ข้อมูลคลาดเคลื่อนสูง ต้องทำการเช็กข้อมูลซ้ำไปซ้ำมาอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเราจัดการสต๊อกอย่างมืออาชีพ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป

1. จัดระเบียบสินค้า แบ่งโซนหรือหมวดหมู่ให้ชัดเจน

หากร้านค้าของคุณขายสินค้าหลายประเภทแล้วยังวางสินค้าผสมกัน ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องลุกขึ้นมาเพื่อจัดระเบียบใหม่แล้วนะคะ เพราะในอนาคตหากคุณขายสินค้าเยอะมากกว่านี้คุณจะลำบากในการหาสินค้าอย่างแน่นอนค่ะ ที่สำคัญยังทำให้คุณเสียเวลาในการรื้อค้นด้วย คุณควรแบ่งสินค้าอย่างชัดเจน จัดหมวดหมู่สินค้า สินค้าที่เหมือนกันให้วางอยู่ด้วยกันเพื่อเป็นการแบ่งโซน สิ่งนี้จะช่วยให้ร้านค้าของคุณดูเป็นระเบียบและง่ายต่อการค้นหาด้วยนะคะ

2. เลิกจดมือ ใช้โปรแกรมหรือเทคโนโลยีเข้ามาช่วย

บันทึกสต๊อกด้วยการจดมือสามารถทำได้นะคะ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณมีข้อมูลเยอะคุณจะเริ่มเขียนไม่ไหว หากให้คนอื่น ๆ มาช่วยด้วยก็อาจจะเจอปัญหาอ่านมือไม่ออก หรือข้อมูลไม่เป็นระเบียบ ดังนั้นคุณควรใช้โปรแกรมเข้ามาช่วยบริหารจัดการเพื่อง่ายต่อการค้นหาข้อมูล และสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ได้ด้วยนะคะ เช่น โปรแกรม Excel ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ทุกคนคุ้นชินกันดีอยู่แล้ว หรือถ้าอยากให้เป็นแบบออนไลน์ก็แนะนำให้เลือกใช้ Google Sheet ค่ะ เพราะไฟล์งานจะบันทึกให้อัตโนมัติ สามารถเข้ามาแก้ไขงานได้พร้อมกันหลายคน หรือจะตั้งค่าให้เราแก้ไขข้อมูลคนเดียวก็สามารถทำได้ค่ะ

3. เช็กจำนวนสต๊อกสินค้าให้สม่ำเสมอ

จำนวนสต๊อกคงคลังเป็นสิ่งที่สำคัญมากของการนับสต๊อกเลยค่ะ ข้อมูลควรจะถูกต้องแม่นยำเพื่อที่เราจะได้วางแผนการจัดการสต๊อก เช่น การสั่งสินค้ามาเติมสต๊อก หรือสินค้าที่มีปริมาณมากเกินไปเราจะระบายของออกอย่างไร เป็นต้น เรานับสต๊อกเพื่อเช็กความถูกต้องจึงเป็นสำคัญที่เราไม่ควรละเลยค่ะ หากเราสามารถทำระบบนับจำนวนได้ถูกต้อง การบริหารสินค้าก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพ

4. กำหนดจำนวนขั้นต่ำของสต๊อกสินค้า

เมื่อเราทำสต๊อกสินค้า เราคงต้องรู้ต้นทุนสินค้าและรู้ว่าสินค้าชนิดใดขายดีมากขนาดไหน เพื่อที่เราจะได้ประเมินได้ว่าเราสินค้าในแต่ละประเภทควรต้องมี “ขั้นต่ำ” ในสต๊อกเท่าไหร่ เช่น สินค้า A ควรมีสต๊อกอยู่ทั้งหมด 20 ชิ้น กหนดให้มีสต๊อกขั้นต่ำ 5 ชิ้น ระหว่างนั้นมีลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้า A สต๊อกจึงลดเรื่อย ๆ เมื่อขายไปจนสต๊อกเหลือ 5 ชิ้น ร้านค้าก็ควรสั่งสินค้าเพิ่มทันที เป็นต้น การทำแบบนี้จะช่วยให้เราบริหารสินค้าได้ดีขึ้น และไม่ทำให้เสียโอกาสในการขายด้วยนะคะ

จัดการบริหารสต๊อกสินค้าได้ดีแล้ว ก็อย่าลืมบริหารการ “จัดส่งสินค้า” ให้มีประสิทธิภาพด้วยนะคะ SHIPPOP เราพร้อมช่วยให้ธุรกิจของคุณจัดการเรื่องส่งของได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น 

เริ่มต้นใช้งาน