การแข่งขันธุรกิจออนไลน์ช่วงนี้ร้อนแรงมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจรายเล็กหรือรายใหญ่ก็หันมาขายออนไลน์กันมากยิ่งขึ้น ช่วยให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันผู้ขายเองก็จะต้องคิดหากลยุทธ์เพื่อดึงให้ลูกค้ารู้จักและซื้อสินค้าจากร้านค้า บทความนี้เราจะมาดูกันว่าเราควรใช้กลุยทธ์อะไรบ้างเพื่อทำการติดปีกให้ธุรกิจออนไลน์เติบโตขึ้น 1. ยิงโฆษณา อย่าเขียนข้อความสั้นเกินไป หลายครั้งเรามักจะเจอคนบอกกับเรา “ถ้าเขียนข้อความยาวเกินไป ลูกค้าจะไม่อ่าน” จะบอกว่าคำพูดนั่นผิดก็ไม่ใช่ซะทีเดียวค่ะ แต่ข้อควาจะสั้นหรือยาวต้องดูก่อนว่าเราสื่อสารโดยมีจุดหมายเพื่ออะไร หากเป็นโฆษณาอย่างเช่น Facebook Ads ที่คุณทำการยิงโฆษณา โดยหวังเพิ่มยอดขาย ให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อทันทีหลังจากเห็นโพสต์นั้น สำหรับลูกค้าที่สนใจ เขาจะอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าทันทีค่ะ ดังนั้นมันจะดีกว่าหากคุณใส่รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของคุณให้ครบถ้วน เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นนั่นเอง แต่ถ้าหากคุณใส่รายละเอียดไม่ครบ ลูกค้าอาจจะคอมเมนต์หรือทักข้อความเพื่อทำการสอบถาม แต่ถ้าคุณได้รับข้อความเป็นจำนวนมากจนตอบกลับไม่ทัน นั่นก็อาจทำให้คุณเสียโอกาสในการขายได้นะคะ 2. ร่วมมือกับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) หากธุรกิจของคุณมีงบสำหรับทำการตลาด ลองร่วมมือกับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ด้วยค่ะ เนื่องจากบุคคลเหล่านี้จะเป็นอีกหนึ่งตัวแทนที่พูดถึงสินค้าของเรา ไม่ว่าจะเป็นการรีวิว ทดลองใช้ ความประทับใจ ฯลฯ เมื่อลูกค้าที่มีความสนใจในการสินค้าของเรา เขาจะทำการค้นหารีวิวเพื่อทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการตัดสินใจค่ะ ดังนั้นการมีอินฟลูเอนเซอร์ที่กล่าวถึงสินค้าของเรา ก็จะเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าอย่างแน่นอน แต่อินฟลูเอนเซอร์ก็มีหลายรูปแบบค่ะ บางคนเน้นการทำวิดีโอ บางคนเน้นถ่ายรูปภาพ และมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ยอดจำนวนผู้ติดตามก็ต่างกัน ดังนั้นเจ้าของธุรกิจจะต้องทำการประเมินก่อนว่าอินฟลูเอนเซอร์คนไหนที่เหมาะสมกับสินค้าหรือบริการของเรา 3. รวบรวมข้อมูลทุกอย่าง และนำมาวิเคราะห์ การเก็บข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับยุคสมัยนี้เลยค่ะ เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจไม่ควรมองข้ามเลย เนื่องจากข้อมูลทุกอย่างเราสามารถนำมาต่อยอดได้ และจะมีประโยชน์ต่อธุรกิจของเราเป็นอย่างมาก เนื่องจากเราจะเห็นภาพรวมของพฤติกรรมลูกค้าเลยว่าลูกค้าชอบอะไร […]
ในยุคปัจจุบันเจ้าของธุรกิจมักจะเลือกจำหน่ายสินค้าหลากหลายช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ ที่แบรนด์มักจะขายสินค้าหลากหลายแพลตฟอร์มเพื่อทการขยายช่องทางการขาย และทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากยิ่ง สิ่งสำคัญ คือ เมื่อคุณขายของหลายช่องทางคุณก็ต้องบริหารงานขายให้ดีเพื่อให้ออเดอร์ไม่ตกหล่น และรักษาฐานลูกค้าไว้ บทความนี้เราจะมาดูกันค่ะว่าเราควรบริหารงานอย่างไร เพื่อช่วยให้ทำงานได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น 1. เข้าใจความแตกต่างของลูกค้า เมื่อคุณขายสินค้าหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Instagram, Twitter, TikTok หรือแม้แต่ขายสินค้าใน Shopee, Lazada คุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่าในแต่ละแพลตฟอร์มนั้นจะมีกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน ซึ่งแน่นอนเลยค่ะว่าจะส่งผลต่อแบรนด์ของเราอย่างแน่นอน เพราะคุณอาจจะต้องปรับรูปแบบการขายให้เหมาะสมกับช่องทางนั้น ๆ ต้องทำความเข้าใจขนาดของรูปภาพในแต่ละแพลตฟอร์ม เป็นต้น 2. รวมหลายช่องทาง ให้มารวมกันในที่เดียว การขายสินค้าหลายช่องทาง มีข้อดีตรงที่ช่วยให้แบรนด์เป็นรู้จักได้มากยิ่งขึ้น สามารถทำการตลาดได้หลากหลายช่องทาง แต่ก็มีจุดด้อยตรงที่เราอาจจะบริหารงานได้ยากมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น คุณต้องตอบข้อความลูกค้าหลายช่องทาง ซึ่งบางครั้งอาจมีข้อผิดพลาดที่ข้อความตกหล่น ตอบแชทลูกค้าช้า ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลายแพลตฟอร์มที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้แม่ค้าออนไลน์ หรือถ้าคุณอยากบริหารงานได้ดีมากยิ่งขึ้น คุณควรมีเว็บไซต์หลักในการสั่งสินค้า เพื่อให้ทุกออเดอร์นั้นมารวมอยู่ในที่เดียว เช่น คุณอาจโพสต์ขายใน Facebook, Instagram แต่เมื่อลูกค้าจะสั่งซื้อสินค้า คุณก็สามารถส่งลิ้งก์ให้ลูกค้าสั่งผ่านทาง Line ช่องทางเดียว เป็นต้น การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณจัดการออเดอร์ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ป้องกันออเดอร์ตกหล่นได้ค่ะ 3. วิเคราะห์และวัดผล […]
เตือนภัย! โปรดระวังมิจฉาชีพส่ง SMS หลอกลวง แจ้งรับเงินกู้จาก SHIPPOP บริษัท ชิปป๊อป จํากัด แจ้งเตือนผู้ใช้บริการระวังตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ที่แอบอ้างส่ง SMS หาเหยื่อ เพื่อเชิญชวนให้ผู้ใช้บริการสามารถ “กู้เงิน” เป็นจำนวน 220,000 บาท จากนั้นจะให้ท่านทำการกดลิงก์ และกรอกข้อมูล ทั้งนี้ทางชิปป๊อปขอยืนยันว่าเราไม่มีนโยบายเพื่อให้ผู้ใช้บริการกู้ยืมเงินแต่อย่างใด และขอแจ้งเตือน ผู้ใช้บริการอย่าหลงเชื่อข้อความดังกล่าวนี้ เนื่องจากเป็นการหลอกขอข้อมูลส่วนตัว และอาจนำข้อมูลของท่านไปกระทำการใดให้ได้รับความเสียหาย หากได้รับการติดต่ออย่าหลงเชื่อคลิกลิงก์หรือกรอกข้อมูลใด ๆ โดยผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบกรณีหลอกลวงได้ที่เว็บไซต์ www.shippop.com เพจเฟซบุ๊ก SHIPPOP และ LINE Official Account @SHIPPOP
Influencer Marketing เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่เหล่าเจ้าของแบรนด์และนักการตลาดมักเลือกใช้ เพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว ซึ่งในปัจจุบันอินฟลูเอนเซอร์ (influencer) มีหลากหลายสไตล์และมีฐานคนดูที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม วันนี้เราจะดูกันค่ะว่าการใช้อินฟลูเอนเซอร์นั้นมีประโยชน์อย่างไรกับธุรกิจ 1. เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อินฟลูเอนเซอร์ (influencer) มีหลากหลายประเภท ยกตัวอย่างเช่น สัตว์เลี้ยง, ครอบครัว, ท่องเที่ยว, ความสวยความงาม, ทำอาหาร เป็นต้น ดังนั้นฐานคนดูที่เข้าไปติดตามบุคคลเหล่านั้นมักจะเป็นคนที่สนใจในสิ่งนั้นอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อแบรนด์เลือกที่จะจ้างอินฟลูเอนเซอร์ก็ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีมากยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญ คือ ก่อนที่เราจะเลือกอินฟลูเอนเซอร์จะต้องทำการวิเคราะห์บุคคลนั้นก่อนว่า เขาทำโพสต์หรือคลิปวิดีโอแบบใด สไตล์แบบไหน คนที่เข้าไปชมอยู่ในช่วงอายุเท่าไหร่ เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายของเราหรือไม่ 2. ช่วยให้คนรู้จักแบรนด์ของเรามากยิ่งขึ้น อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าอินฟลูเอนเซอร์จะมีฐานคนติดตาม ซึ่งปัจจุบันก็มีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักล้านเลยก็มี ในกรณีนี้ก็ขึ้นอยู่กับเราแล้วว่าต้องการเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่มีฐานคนดูมากน้อยขนาดไหน เพราะจำนวนเหล่านั้นก็จะเป็นจำนวนที่คนจะเห็นแบรนด์ของเราด้วยเช่นกัน เมื่อเราเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์และเขาทำโพสต์หรือคลิปวิดีโอโปรโมทให้กับเรา คนที่เข้ามาดูก็จะเห็นแบรนด์และรู้จักแบรนด์ของเรามากยิ่งขึ้น 3. ลูกค้ามีส่วนร่วมกับโพสต์หรือแคมเปญที่เรากำลังทำ การเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์มีวิธีการโปรโมทหลากหลายมากเลยค่ะ แต่ถ้าคุณทำแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดขาย เราขอแนะนำให้คุณตั้งเป้าหมายเอาไว้ เพื่อวิเคราะห์ผลว่าบุคคลที่เราจ้างนั้นช่วยให้แบรนด์สามารถเพิ่มยอดขายได้หรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น สร้างโค้ดลดราคาสินค้าให้กับอินฟลูเอนเซอร์แต่ละคน และวัดผลดูว่าโค้ดใดที่ถูกใช้มากที่สุด 4. ยอดขายเพิ่มขึ้น เมื่อคุณเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ ผลลัพธ์ที่ได้นอกจากจะช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จักแล้ว ยังสามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้เช่นเดียวกันค่ะ ยกตัวอย่างเช่น คุณทำแบรนด์เครื่องสำอาง จึงเลือกอินฟลูเอนเซอร์อย่างบิวตี้บล็อกเกอร์ให้ทำการรีวิวสินค้าหรือทำคลิปสอนแต่งหน้า […]
ส่งพัสดุกับ Kerry ผ่านร้าน SHIPPOP SHOP ได้แล้ววันนี้ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ ราคาเริ่มต้นเพียง 19 บาท รายละเอียดโปรโมชั่นพิเศษ 1.ส่งได้สูงสุด 2 กิโลกรัม 2.ขนาดพัสดุรวมกันไม่เกิน 40 เซนติเมตร เฉพาะพัสดุ Envelop, Seal Bag A, Seal Bag B, Seal Bag C และกล่อง Mini – Envelop เริ่มต้นเพียง 19 บาท – Mini เริ่มต้นเพียง 19 บาท – Seal Bag A และ B เริ่มต้นเพียง 19 บาท – Seal Bag C เริ่มต้นเพียง 19 […]