ขายสินค้าหลากหลายช่องทาง วางแผนการบริหารงานอย่างไรดี

ในยุคปัจจุบันเจ้าของธุรกิจมักจะเลือกจำหน่ายสินค้าหลากหลายช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ ที่แบรนด์มักจะขายสินค้าหลากหลายแพลตฟอร์มเพื่อทการขยายช่องทางการขาย และทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากยิ่ง สิ่งสำคัญ คือ เมื่อคุณขายของหลายช่องทางคุณก็ต้องบริหารงานขายให้ดีเพื่อให้ออเดอร์ไม่ตกหล่น และรักษาฐานลูกค้าไว้ บทความนี้เราจะมาดูกันค่ะว่าเราควรบริหารงานอย่างไร เพื่อช่วยให้ทำงานได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

1. เข้าใจความแตกต่างของลูกค้า

เมื่อคุณขายสินค้าหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Instagram, Twitter, TikTok หรือแม้แต่ขายสินค้าใน Shopee, Lazada คุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่าในแต่ละแพลตฟอร์มนั้นจะมีกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน ซึ่งแน่นอนเลยค่ะว่าจะส่งผลต่อแบรนด์ของเราอย่างแน่นอน เพราะคุณอาจจะต้องปรับรูปแบบการขายให้เหมาะสมกับช่องทางนั้น ๆ ต้องทำความเข้าใจขนาดของรูปภาพในแต่ละแพลตฟอร์ม เป็นต้น

2. รวมหลายช่องทาง ให้มารวมกันในที่เดียว

การขายสินค้าหลายช่องทาง มีข้อดีตรงที่ช่วยให้แบรนด์เป็นรู้จักได้มากยิ่งขึ้น สามารถทำการตลาดได้หลากหลายช่องทาง แต่ก็มีจุดด้อยตรงที่เราอาจจะบริหารงานได้ยากมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น คุณต้องตอบข้อความลูกค้าหลายช่องทาง ซึ่งบางครั้งอาจมีข้อผิดพลาดที่ข้อความตกหล่น ตอบแชทลูกค้าช้า ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลายแพลตฟอร์มที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้แม่ค้าออนไลน์ 

หรือถ้าคุณอยากบริหารงานได้ดีมากยิ่งขึ้น คุณควรมีเว็บไซต์หลักในการสั่งสินค้า เพื่อให้ทุกออเดอร์นั้นมารวมอยู่ในที่เดียว เช่น คุณอาจโพสต์ขายใน Facebook, Instagram แต่เมื่อลูกค้าจะสั่งซื้อสินค้า คุณก็สามารถส่งลิ้งก์ให้ลูกค้าสั่งผ่านทาง Line ช่องทางเดียว เป็นต้น การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณจัดการออเดอร์ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ป้องกันออเดอร์ตกหล่นได้ค่ะ

3. วิเคราะห์และวัดผล

ขายหลายช่องทางอาจจะไม่ได้ดีเสมอไป หากบางแพลตฟอร์มไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มลูกค้าของเราค่ะ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าแพลตฟอร์มไหนได้ผลตอบรับดี? แน่นอนเลยว่าคุณจะต้องทำการวัดผลในแต่ละช่องทางการขายค่ะ ซึ่งเราสามารถทำได้โดยการดูข้อมูลหลังบ้านของแต่ละแพลตฟอร์มค่ะ เราต้องทำการกำหนดว่าในแต่ละแพลตฟอร์มสามารถเข้าถึงลูกค้าได้เท่าไหร่ มีลูกค้ากี่คนที่คลิกลิ้งก์ที่เราแนบ ทักข้อความหาเรามากน้อยขนาดไหน สามารถปิดการขายได้จริงกี่คน เป็นต้น เมื่อคุณเก็บข้อมูลได้ครบแล้ว คุณจะเริ่มเห็นว่าออเดอร์ส่วนใหญ่มาจากแพลตฟอร์มใด ลูกค้ารู้จักเราจากช่องทางใดบ้าง ข้อมูลเหล่านี้จะนำมาต่อยอดได้หลายอย่างเลยค่ะ

4. เชื่อมต่อระบบขนส่ง เพื่อง่ายต่อการติดตาม

ขายสินค้าจนออเดอร์เยอะ อาจจะเจอปัญหาปวดหัวอย่างเลขแทร็กกิ้งพัสดุ ติดตามพัสดุไม่ได้ เริ่มรู้สึกว่าการส่งของเป็นเรื่องยุ่งยาก คุณสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการเชื่อมกับระบบขนส่งโดยตรงค่ะ

SHIPPOP เรามีขนส่งรองรับมากกว่า 18 ขนส่ง ให้บริการครอบคลุมทั่วทั้งประเทศไทย ส่งสินค้าได้หลากหลาย ที่สำคัญคือเรามีทีมงานคอยช่วยเหลือติดตามพัสดุของคุณ และมีระบบหลังบ้านช่วยจัดการเรื่องส่งของที่เปิดให้ใช้งานได้ “ฟรี” ระบบเราใช้งานง่าย แถมยังได้ค่าส่งราคาดี ช่วยลดต้นทุน เพิ่มกำไรให้กับคุณได้ด้วยนะคะ

เริ่มต้นใช้งาน “ฟรี”