ตลาดขนส่งโลจิสติกส์ไทย: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในยุค Shoppertainment ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดขนส่งโลจิสติกส์ในประเทศไทยได้เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สืบเนื่องจากพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ภาพรวมของตลาดนี้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2024 ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค: จาก Social Commerce สู่ Shoppertainment ต้องบอกว่าพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคไทยได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จากเดิมที่การขายสินค้าผ่าน Social Commerce เป็นที่นิยม แต่ปัจจุบันกลับถูกแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดอย่างมากจากการมาของ Shoppertainment ปัจจุบัน แทบทุกแพลตฟอร์มได้เริ่มนำเสนอวิดีโอสั้นพร้อมฟีเจอร์ “ติดตะกร้า” เพื่อให้ผู้ชมสามารถซื้อสินค้าได้ทันทีขณะรับชม นี่คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ตลาดขนส่งในประเทศไทยต้องปรับตัวอย่างรุนแรงและน่าสนใจ Top 5 ผู้ให้บริการขนส่งในประเทศไทย (อัพเดต 20 กันยายน 2024) จากตัวเลขในกราฟ มีประเด็นที่น่าสนใจหลายอย่างที่ควรนำไปวิเคราะห์ต่อ: ไปรษณีย์ไทย (Thailand Post) ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาด โดยมียอดรายได้เพิ่มขึ้นและสามารถพลิกจากการขาดทุนในปีที่แล้วมาเป็นกำไรได้สำเร็จ แฟลช เอ็กซ์เพรส (Flash Express) ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของตลาด แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส (J&T Express) เติบโตขึ้นอย่างมาก […]
ช่วงสถานการณ์ COVID-19 แม่ค้าหลายรายอาจได้รับผลกระทบหลายอย่าง เช่น ขายสินค้าได้ลดลง ลูกค้าเก่าไม่กลับมาซื้อซ้ำ เป็นต้น แล้วเราจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร? วันนี้ SHIPPOP มีวิธีที่จะช่วยให้คุณรักษาฐานลูกค้าไว้ได้ ช่วยเพิ่มยอดขายและปิดการขายได้ง่ายขึ้นค่ะ 1. สร้างความเชื่อมั่นว่าร้านค้าของเราปลอดภัย นาทีนี้หลายคนคงกังวลว่าตัวเองจะติดโควิด ดังนั้นเราควรสร้างความเชื่อมั่นให้กับความลูกค้า โดยการออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าสบายใจ เช่น การฉีดพ่นฆ่าเชื้อ ให้พนักงานสวมหน้ากากอนามัย มีเจลแอลกฮอล์วางตามจุดต่าง ๆ ภายในร้าน และวัดอุณหภูมิร่างกายทุกคนที่เข้ามาภายในร้านค้า ที่สำคัญอย่าลืมเก็บภาพมาเพื่อทำคอนเทนต์บอกกับลูกค้าด้วยนะคะ ว่าเรามีมาตรการอย่างไร ลูกค้าจะได้เข้าซื้อสินค้าของเราได้อย่างอุ่นใจค่ะ 2. บริการด้วยใจ ไม่เน้นขายอย่างเดียว เคยเข้าไปในร้านค้าสักแห่งหนึ่งแล้วเจอพนักงานยิ้มแย้มให้คำแนะนำดีจนเราเกิดประทับใจมาก ๆ ไหมคะ? นั้นแหละค่ะจะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ลูกค้าติดร้านค้าของเรา เมื่อเราให้คำแนะนำกับลูกค้าดี ลูกค้าจะกลับมาถามและพูดคุยกันเราบ่อยมากขึ้น เมื่อลูกค้าประทับใจ ก็มีโอกาสที่จะปิดการขายและลูกค้านั้นจะรักแบรนด์ของเรามากขึ้น ไม่แน่อาจจะมีการบอกต่อกับคนอื่น ๆ เพิ่มด้วยนะคะ 3. จัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย ใคร ๆ ก็ชอบและรักโปรโมชัน การที่เราจัดโปรโมชันจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้มีประสิทธิภาพมากเลยขึ้น ไม่ว่าจะลดราคาแบบเป็นเปอร์เซ็น หรือซื้อ 1 แถม 1 ก็เห็นผลทุกรูปแบบ […]
แม่ค้าออนไลน์ที่ขายของแต่ไม่ได้สร้างแบรนด์เป็นของตนเอง อาจจะต้องเจอปัญหาที่สินค้าของเราเหมือนกับร้านค้าอื่น ๆ ส่งผลให้ขายยากขึ้น คู่แข่งมีเยอะ เพราะฉะนั้นเราจะต้องสร้าง “ความแตกต่าง” ให้กับสินค้าของเราค่ะ เพื่อทำให้สินค้าของเรานั้นสะดุดตาและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้ค่ะ 1. สร้างความแตกต่างด้วยกล่องพัสดุ หากเรารู้สึกว่าสินค้าเป็นของที่เราอาจไม่ได้แตกต่างจากร้านค้ารายอื่นมากนัก เราก็สามารถสร้างความแตกต่างด้วยกล่องพัสดุได้นะคะ เพราะเมื่อลูกค้าได้รับของ สิ่งแรกที่ลูกค้านั้นก็คือ “กล่องพัสดุ” ค่ะ ถ้าเราส่งสินค้าแล้วใช้กล่องรูปแบบเดิมลูกค้าก็จะจดจำเราได้ ลองนึกภาพตามดูนะคะถ้ามีกองพัสดุวางรวมกันสัก 10 กล่อง ทุก ๆ กล่องมีหน้าตาเหมือนกันหมดก็ไม่ได้มีกล่องไหนโดดเด่นเลยใช่ไหมคะ แต่ถ้ากล่องพัสดุเป็นสีฟ้าสดใส พัสดุนั้นก็จะเป็นกล่องที่โดดเด่นมากที่สุดนั้นเองค่ะ แน่นอนเลยว่าถ้าลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำแล้วได้รับกล่องแบบเดิม ลูกค้าก็จะจำได้ทันทีว่าเป็นสินค้าจากร้านของเราค่ะ 2. สร้างความแตกต่างด้วยสก็อตเทป หากรู้สึกว่าการใช้กล่องจะต้องใช้ต้นทุนเพิ่ม เราขอแนะนำให้คุณเลือกใช้เป็น “สก็อตเทป” ค่ะ เพราะเป็นอุปกรณ์อย่างนึงที่เราจะต้องใช้ในการแพคของกันอย่างแน่ นอนเลย เราอาจจะใช้สก็อตเทปที่มีสีสันต่าง ๆ เพื่อให้กล่องดูสะดุดตาขึ้น หรือทำเป็นสีใสและมีชื่อของร้านค้า ก็ช่วยเพิ่มความโดดเด่นสร้างความแตกต่างให้กับกล่องพัสดุของเราได้เป็นดีเลยนะคะ 3. แนบการ์ดเล็ก ๆ ไว้ในกล่อง ไม่มีทั้งกล่องและไม่มีสก็อตเทปเลยจะทำยังไงดี? อีกหนึ่งทางเลือกที่เรามั่นใจว่าน่าจะทำตามได้ง่าย คือ การที่เราทำการ์ดเขียนข้อความแล้วแนบไว้ในกล่องพัสดุค่ะ เราอาจจะใช้กระดาษ A4 ธรรมดา แล้วพิมพ์ข้อความขอบคุณลูกค้าที่อุดหนุน เป็นเหมือนโน้ตเล็ก ๆ […]
การส่งสินค้าเป็นขั้นตอนสำคัญในการขายของออนไลน์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เรียกได้ว่าภารกิจของการขายจะสำเร็จได้นั้น ก็คือเมื่อลูกค้าได้รับสินค้าของเราแล้ว ยิ่งถ้าร้านของเราส่งได้ไวและปลอดภัยของถึงชัวร์ ก็ยิ่งมัดใจคุณลูกค้าไปได้เต็มๆ โดยเฉพาะลูกค้าที่ซื้อของจากร้านของเราเป็นครั้งแรก การทำให้เขามั่นใจว่าของจะถึงมือแน่นอนเป็นเรื่องที่เราจะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เราต้องตรวจเช็คสถานะการจัดส่ง และคอยอัพเดตให้ลูกค้าอยู่เสมอ หรือส่งเลข Tacking แจ้งเลขพัสดุลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าตรวจสอบสถานะเองก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่พ่อค้าแม่ค้ามักทำกัน แต่เราก็ปฎิเสธไม่ได้ ว่าการคอยแจ้งตัวเลขจำนวนมากเหล่านี้ มันเหนื่อยและยุ่งยากจริงๆ ก่อนหน้านี้ เวลาคุณ แจ้งเลขพัสดุลูกค้า คุณมีวิธีการอย่างไรครับ? “โพสหมายเลขพัสดุลงบนหน้าวอลหรือหน้าเพจ รอให้ลูกค้าเข้ามาหาเอง” “ถ่ายรูปสลิปที่ได้จากไปรษณีย์ ส่งให้ลูกค้าดูในแชท” “ไม่ประกาศเลย เหนื่อย แค่จัดการออเดอร์ในแต่ละวันก็จะไม่ไหวอยู่แล้ว” เปลี่ยนความยุ่งยากในการ แจ้งเลขพัสดุลูกค้า ให้ง่ายและสะดวกขึ้น วันนี้! คุณสามารถจัดการเรื่องขนส่งได้ง่ายขึ้นผ่าน SHIPPOP เราช่วยให้คุณออกหมายเลขติดตามพัสดุจากระบบ เพื่อลดระยะเวลาในการแจ้งหมายเลขพัสดุให้กับลูกค้าของคุณ 1. ระบบสร้างหมายเลขติดตามพัสดุ SHIPPOP เรามีบริการสร้างหมายเลข Tracking ให้คุณทันทีหลังจากที่คุณชำระค่าขนส่งแล้ว ยิ่งหากมีออเดอร์ส่งจำนวนมากจากลูกค้า คุณก็แค่ Copy เลข Tracking จากหน้าเว็บไซต์ เพื่อส่งให้กับลูกค้าได้ทันที ซึ่งสามารถใช้หมายเลขได้ทั้ง รหัสรายการ : SPXXXXXXXXX (หมายเลข Tracking ที่ออกโดย SHIPPOP) […]
สมาร์ทโฟน พาวเวอร์แบงค์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคอื่นๆ เป็นเครื่องมือที่มีราคาแพงและมีความเปราะบาง ดังนั้นวิธีการแพ็คและขน ส่งสินค้า จึงมีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งวันนี้ SHIPPOP ขอเสนอวิธีที่จะช่วยให้คุณลดปัญหาในการ ส่งสินค้า อิเล็กทรอนิกส์ที่อาจเกิดความเสียหายในระหว่างการขนส่ง 1. ส่งสินค้า : โดยใช้กล่องกระดาษแข็งแทนกล่องกระดาษลูกฟูก กล่องกระดาษแข็งจะแตกต่างจากกล่องกระดาษลูกฟูก กล่องกระดาษลูกฟูกคือกล่องที่ทำมาจากกระดาษแข็งพับทบไปมา กล่องกระดาษแข็งจะประกอบไปด้วยกระดาษสามชั้น คือ แผ่นเรียบใน แผ่นเรียบนอก และมีฟูกคั่นอยู่ระหว่างกลาง วิธีทำกล่องกระดาษแข็งคือ จะเอากระดาษ ทำให้สามชั้นนี้มาประกบกัน ทำให้กล่องกระดาษแข็งมีราคาที่คุ้มค่าต่อการใช้งานและยังสามารถบรรจุของที่มีน้ำหนักมากได้ทั้งยังป้องกันความชื้นและรักษาสิ่งของภายในนั้นอีกด้วย 2.ส่งสินค้า : โดยใช้เม็ดโฟมเพื่อกันกระแทก การโรยโฟมเม็ดเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยแยกสินค้าออกจากกัน และยังช่วยให้สินค้าไม่กระทบกับมุมด้านข้าง ด้านบน หรือด้านล่างของกล่อง ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งของเคลื่อนที่ไปรอบรอบกล่องกระดาษ ซึ่งโฟมเม็ดนั้นมีราคาถูกและสามารถป้องกันผลิตภัณฑ์ของคุณได้ดี ถือเป็นอีกหนึ่งวัสดุที่ดีที่สุดในการแพ็คกล่องสินค้า 3.ส่งสินค้า : โดยปิดกล่องด้วยเทปกระดาษกาวใช้น้ำ การขนส่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีราคาแพง คุณจะต้องปิดผนึกกล่องให้แน่นหนาเพื่อป้องกันผลิตภัณฑ์ของคุณ การใช้เทปกระดาษกาวใช้น้ำจะมีประโยชน์ค่อนข้างมากเนื่องจากเมื่อมันถูกกระตุ้นด้วยน้ำมันจะแทรกซึมเข้าไปในกล่องกระดาษ และยึดติดกันอย่างแน่นหนากับกล่องกระดาษ และเทปแบบน้ำนี้จะมีเส้นใยแก้วอัดแน่นอยู่เต็มแผ่นเทป เป็นตัวเสริมสร้างความแข็งแรง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณเมื่อถูกแพ็คอยู่ในกล่อง คุณสามารถตรวจเช็คได้ด้วยตัวคุณเองโดยการขยับกล่องไปมา หากของภายในกล่องไม่ได้มีการขยับ นั่นแสดงว่ามีการแพ็คมาอย่างดี ควรบรรจุของภายในกล่องให้เต็มมากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้โดยการใส่โฟม หรือเศษกระดาษเข้าไป จากนั้นทำการปิดผนึกกล่องให้แน่นหนาแล้วนำใส่ลงไปในบรรจุภัณฑ์อีกชิ้นและเว้นระยะห่างแต่ละด้านอย่างน้อย 2 นิ้ว […]