ขายของออนไลน์ได้แล้วก็อย่าลืมที่จะรักษาฐานลูกค้าเก่า และทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำกันด้วยนะคะ แต่การที่จะทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำก็อาจจะยากสำหรับใครหลาย ๆ คน ดังนั้นวันนี้เราจะมาดูกันค่ะว่า เราต้องอย่างไรเพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ 1. จัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย การทำแคมเปญทางการตลาดเป็นอีกหนึ่งวิธีที่กระตุ้นให้ลูกค้าสนใจและกลับมาซื้อซ้ำได้เป็นอย่างดียกตัวอย่างเช่น จัดโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1, ลดราคา 30%, การให้โค้ดหรือคูปองส่วนลด เป็นต้น แต่ก็ไม่ควรจัดโปรโมชั่นบ่อยหรือถี่เกินไปนะคะ เนื่องจากว่าหากเราจัดโปรโมชั่นบ่อย ๆ เวลาที่เราขายสินค้าในราคาปกติ ลูกค้าอาจจะไม่ซื้อสินค้าแต่จะรอซื้อแค่ตอนลดราคาเท่านั้นค่ะ 2. ส่งข้อความแจ้งเตือนหาลูกค้า หากเราทำการเก็บข้อมูล เราจะมีข้อมูลเพื่อเอาไว้เพื่อติดต่อกับลูกค้า หากกลัวว่าลูกค้าจะรำคาญ เราขอแนะนำให้คุณเลือกส่งข้อความผ่านช่องทางอีเมล์ แต่ถ้าคุณเปิดเพจทางเฟซบุ๊คหรือมีไลน์ออฟฟิเชียลของแบรนด์ นี้แหละค่ะที่จะเป็นช่องทางสำคัญที่เห็นผลได้ดีเลย เพราะบุคคลที่ติดตามเรานั้นเป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าเก่า หรือลูกค้าที่สนใจแบรนด์ของเรา เมื่อเรามีข่าวสารต่าง ๆ เช่น สินค้าออกใหม่, สินค้าโปรโมชั่น, แจ้งวันหยุด เราสามารถทำการบรอดแคสต์เพื่อส่งข้อความหาลูกค้าได้ทันที 3. ให้บริการด้วยใจ ใส่ใจในรายละเอียด การให้บริการเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่สามารถมัดใจลูกค้าได้ การที่ใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ ของลูกค้า ก็สามารถสร้างความประทับใจได้นะคะ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ เหมือนเราเดินเข้าไปร้านค้าร้านนึง แล้วร้านค้านั้นจดจำได้ว่าเราชอบอะไรไม่ชอบอะไร แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าพฤติกรรมลูกค้าแต่ละคนเป็นอย่างไร? เราก็ต้องทำการบันทึกข้อมูลไว้ค่ะ […]
การเพิ่มยอดขายไม่ได้หมายความว่าเราจะทำกำไรจากการ “ตั้งราคาสินค้า” อย่างเดียวเท่านั้นนะคะ เนื่องจากเราสามารถทำได้หลากหลายวิธีเลยค่ะ หนึ่งในนั้นก็คือ “การเพิ่มยอดขายด้วยการส่งของ” เนื่องจากเป็นอีกส่วนหนึ่งที่เราสามารถควบคุมต้นทุนได้ แถมยังเอาไปทำการตลาดดึงดูดให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ 1. รองรับการเก็บเงินปลายทาง (COD) รองรับการเก็บเงินปลายทาง หรือให้บริการ Cash On Delivery (COD) เป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้แบรนด์ของคุณน่าเชื่อถือและช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้ด้วยค่ะ เนื่องจากลูกค้าจะทำการสั่งซื้อสินค้า และจะชำระค่าสินค้าให้กับเราก็ต่อเมื่อเขาได้รับสินค้าแล้วเท่านั้น ซึ่งลูกค้าก็จะมั่นใจได้ว่าเราส่งของให้จริงนั่นเองค่ะ แต่การให้บริการเก็บปลายทางจะมีคิดค่าธรรมเนียมการให้บริการด้วยนะคะ ซึ่งค่าธรรมเนียมในแต่ละขนส่งจะแตกต่างกันไปค่ะ ดังนั้นเจ้าของธุรกิจควรศึกษาเงื่อนไขให้ดีเพื่อบริหารงานขายได้ดียิ่งขึ้น 2. ดึงดูดลูกค้าด้วยคำว่า “ส่งฟรี” ลูกค้าหลายคนยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้า แต่พอเจอ “ค่าส่ง” ก็จะรู้สึกเสียดาย ไม่อยากจ่ายเงินเพิ่ม ดังนั้นร้านค้าอย่างเราควรบวกค่าจัดส่งไว้ในค่าสินค้า ยกตัวอย่างเช่น สินค้าราคา 100 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาท เมื่อต้องระบุราคาขายให้เขียนว่า “ราคา 150 บาท ส่งฟรี” จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าแต่ละขนส่งคิดค่าบริการเท่าไหร่? SHIPPOP เรามีฟังก์ชั่นให้ทุกคนสามารถเข้ามา “เปรียบเทียบราคา” ของขนส่งได้ โดยแค่ระบุหมายเลขไปรษณีย์ต้นทาง-ปลายทาง พร้อมทั้งระบุน้ำหนัก ที่สำคัญสามารถเช็คราคาได้ “ฟรี” […]
สำหรับใครที่กำลังมองหาว่าจะ “ขายของออนไลน์ในแพลตฟอร์มไหนดี?” เราขอแนะนำให้เปิดร้านขายของออนไลน์ใน Instagram (IG) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นช่องทางที่ไม่ได้เป็นแค่หนึ่งในขั้นตอนของการทำการตลาดเท่านั้นนะคะ เพราะถ้าหากเราบริหารร้านค้าได้ดีก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขายของเราได้ด้วยค่ะ 1. ลูกค้าช็อปปิ้งได้ง่าย Instagram เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มยอดนิยมที่ร้านค้ามักเลือกใช้เพื่อเปิดร้านค้าออนไลน์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้แบรนด์และลูกค้ามีปฎิสัมพันธ์กันและสามารถปิดการขายได้ในที่เดียวด้วย เพราะลูกค้าสามารถแชทหาเราได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการคอมเมนต์หรือทัก direct message เพื่อสอบถามรายละเอียดและสั่งซื้อสินค้าได้ทันที ที่สำคัญ คือ หากเราเทียบกับการขายในช่องทางออฟไลน์หรือในเว็บไซต์ ลูกค้าจะต้องเปิดดูสินค้าในแค็ตตาล็อกหรือคลิกลิงก์ต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ แต่ใน Instagram เราจะสามารถแสดงข้อมูลได้ในโพสต์เดียว ทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่ยุ่งยากในการใช้งาน 2. เป็นการตลาดทางตรงสู่ผู้บริโภค Instagram เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ลูกค้าจะเลือกใช้เพื่อสื่อสารกับแบรนด์ ซึ่งหมายความว่าเมื่อลูกค้าจะตัดสินใจซื้อสินค้าสักหนึ่งชิ้น ลูกค้ามีแนวโน้มหาสินค้าบน Instagram ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเพื่อดูรูปภาพและข้อมูลต่าง ๆ และจะเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออฟไลน์หรือเลือกซื้อผ่านทางช่องทางออนไลน์อื่น ๆ ด้วยรูปแบบของแพลตฟอร์มจึงทำให้ลูกค้าดูสินค้าได้สะดวกและรวดเร็ว เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่เน้นรูปภาพเป็นหลัก สามารถลงรูปได้สูงสุด 10 รูป/โพสต์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถจูงใจให้ซื้อสินค้าและมีแนวโน้มที่จะเป็นลูกค้าประจำของแบรนด์ 3. กระตุ้นการซื้อ หากเป็นสมัยก่อนเวลาลูกค้าวางแผนที่จะซื้อหรือตัดสินใจซื้อแล้ว จะเดินเข้าไปซื้อตามร้านค้าออฟไลน์ทันที แต่อย่างไรก็ตาม Instagram ก็เป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้าด้วยเช่นกัน หมายความว่า ในบางครั้งเวลาที่ลูกค้าเบื่อ ๆ […]
เข้าสู่เดือนธันวาคมแล้ว อีกไม่นานก็จะปี 2021 กันแล้วนะคะ ในปีนี้หลาย ๆ ธุรกิจอาจจะเจอวิกฤตหนักเพราะสถานการณ์ของไวรัสไวรัสโคโรนา (COVID-19) ดังนั้นเราอาจจะต้องวางแผนธุรกิจกันมากขึ้น และปรับตัวกันให้มากขึ้น เพื่อให้ธุรกิจของเราประสบความสำเร็จในปีหน้า SHIPPOP เรามีเคล็ด (ไม่) ลับมาบอกต่อ กับ “5 สิ่งที่ธุรกิจขนาดเล็กควรทำในปี 2021” 1. เตรียมความพร้อมสำหรับ “ความไม่แน่นอน” สำหรับปี 2020 เราเจอวิกฤตของ COVID-19 ที่ทำให้ธุรกิจหลายรายได้รับผลกระทบอย่างหนัก บางรายธุรกิจเติบโตขึ้น แต่บางรายก็ขาดทุนอย่างหนัก งานน้อยลง รายได้ก็ลดลงด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นแล้วสำหรับ “อนาคต” มันเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนเลย เราไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ดังนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราควรต้อง “เตรียมความพร้อม” การเตรียมความพร้อม เราควรที่จะประเมินสถานการณ์ “ปกติ” ของเราก่อนว่าเรามีการดำเนินธุรกิจอย่างไร และลองประเมินสถานการณ์ที่ “ไม่ปกติ” ถ้าเราปัญหาหรือวิฤตหนักแบบช่วง COVID-19 เราจะปรับธุรกิจของเราอย่างไรบ้าง เราควรวางแผนไว้ล่วงหน้าเพราะถ้าหากเกิดวิกฤตอีกครั้ง เราจะสามารถผ่านปัญหาเหล่านั้นไปได้ด้วยดีค่ะ 2. อย่ากลัวที่จะลองอะไรใหม่ ๆ ธุรกิจขนาดเล็กส่วนใหญ่จะมีความคล่องตัวและเรามักจะทำกิจวัตรเดิม ๆ ไม่ได้มีแบบแผนสำรองในกรณีที่ธุรกิจเจอวิกฤต แต่ถ้าวันนึงเราเจอวิกฤตแบบที่ไม่ทันตั้งตัวเราจะทำอย่างไร […]
ปัจจุบันแม่ค้าออนไลน์หลายรายเลือกขายสินค้าผ่านช่องทาง Social media หรือ Market Place ต่าง ๆ เท่านั้นแต่ในอีกมุมนึงการที่แบรนด์มีเว็บไซต์เป็นของตนเอง จริง ๆ แล้วก็เป็นสิ่งที่ดีนะคะ เนื่องจากจะทำให้แบรนด์ของเราดูน่าเชื่อถือ เราสามารถควบคุมดีไซน์หน้าตาของเว็บได้ด้วย แต่ก็อาจจะมีหลายครั้งที่ลูกค้ามักจะเข้ามาแค่หน้าเว็บไซต์เฉย ๆ แล้วปิดหน้าเว็บของเราไป เพราะฉะนั้นเราจะต้องพัฒนาเว็บไซต์ของเราให้ดึงดูดลูกค้าเข้ามาและเลือกซื้อสินค้า แล้วเว็บเราควรมีฟังก์ชั่นอะไรเพิ่มบ้าง? SHIPPOP จะมาแนะนำ 5 เคล็ดลับการทำเว็บไซต์อย่างไรให้ลูกค้าไม่กดปิดหน้าเว็บ 1. ทำให้หน้าเว็บไซต์รองรับกับระบบมือถือ ปัจจุบันโทรศัพท์เป็นสิ่งพื้นฐานที่ลูกค้าพกติดตัว และใช้ในการทำงานอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้โซเชียลมิเดีย หรือแม้แต่การหาข้อมูล ดังนั้นหากอยากขายสินค้าได้ ก็ควรทำหน้าเว็บไซต์ที่รองรับกับมือถือด้วย เนื่องจากถ้าลูกค้ากดเข้ามาในเว็บไซต์และขนาดของหน้าเว็บไม่พอดีกับมือถือ จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าใช้งานยุ่งยาก ขั้นตอนซับซ้อน ดังนั้นการทำให้เว็บไซต์ให้รองรับกับระบบมือถือจึงเป็นส่วนที่สำคัญที่ทำให้ลูกค้าใช้งานได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ซึ่งนี้ก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นด้วยนะคะ 2.ใช้วิดีโอในการสื่อสาร หากสินค้าหรือบริการของเราเป็นสิ่งที่เข้าใจยาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสมัครเข้าเว็บไซต์, ขั้นตอนใช้งานเว็บไซต์, การติดตั้งสินค้า หรือวิธีการใช้งานสินค้า เราควรทำวิดีโอเพื่อแนะนำสินค้าหรือบริการของเรา เพราะวิดีโอจะทำให้ดึงดูดลูกค้าได้ดี ลูกค้าเห็นภาพชัดเจนและสามารถทำตามได้ง่าย เมื่อลูกค้าเกิดความเข้าใจแล้ว สิ่งนี้ก็จะช่วยดึงดูดให้ลูกค้าเกิดความสนใจและช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ดียิ่งขึ้นเช่นกันค่ะ 3.ให้ข้อเสนอบางอย่างที่ลูกค้าได้รับ “ฟรี” ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าเก่าหรือลูกค้าใหม่ เราก็ต้องทำการรักษาฐานลูกค้าเอาไว้ อีกหนึ่งสิ่งที่ควรคำนึงถึง คือ […]