สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) ได้เผยผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยประจำปี 2565 หรือ Thailand Internet User Behavior (IUB) 2022 ผ่านแบบสอบถามออนไลน์ จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 46,348 ราย ทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือน เม.ย.-ก.ค. 2565
โดยพบว่าคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตโดยเฉลี่ยวันละ 7 ชั่วโมง 4 นาที และกิจกรรมยอดฮิตประจำปีนี้ ได้แก่ การปรึกษาและรับบริการทางการแพทย์ออนไลน์ (e-Health) 86.16% ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะเดียวกันก็มีกิจกรรมใหม่ที่มาแรง นั่นก็คือ การดูถ่ายทอดสดเพื่อซื้อสินค้า/บริการออนไลน์ (Live Commerce) 34.10% ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าจับตามอง และสะท้อนให้เห็นว่าร้านค้าออนไลน์อาจจะต้องปรับตัวมาถ่ายทอดสดขายสินค้ากันให้มากยิ่งขึ้น
ผู้ซื้อ-ผู้ขายเลือกใช้ช่องทางใด?
ผู้ซื้อสินค้า/บริการออนไลน์
– e-Marketplace 75.99%
– Facebook 61.51%
– Website 39.7%
– LINE 21.04%
– Instagram 12.95%
– Twitter 3.81%
ผู้ขายสินค้า/บริการออนไลน์
– Facebook 66.76%
– e-Marketplace 55.18%
– LINE 32.05%
– Website 26.67%
– Instagram 19.91%
– Twitter 9.90%
นักชอปเลือก e-Marketplace ในขณะที่คนขายเลือก Facebook
TOP 5 เหตุผลที่ซื้อ สินค้า/บริการออนไลน์
เหตุผลหลัก ๆ ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้า/บริการออนไลน์ ได้แก่ มีสินค้าราคาถูก 63.10% รองลงมาคือ ความหลากหลายของสินค้า 58.73% แพลตฟอร์มใช้งานง่าย 45.81% มีการทำโปรโมชัน 44.39% และ ค่าส่งถูกหรือจัดส่งให้ฟรี 34.10%
TOP 5 ช่องทางการชำระเงิน
การขายของออนไลน์ อีกเรื่องที่คุณต้องให้ความสำคัญนั่นก็คือ “ช่องทางการชำระเงิน” ยิ่งมีให้เลือกหลายช่องทางก็ยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการขายให้กับคุณได้ โดยวิธีการชำระเงินยอดนิยม คือ การโอนเงินผ่านเว็บไซต์/แอปพลิเคชันธนาคาร 67.32% รองลงมา คือ เก็บเงินปลายทาง (COD) 58.49% ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้ว่าจะได้รับสินค้าอย่างแน่นอน และยังมีการชำระด้วยกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) 24.43% การชำระเงินด้วยบัตรเครดิต 17.09% และลำดับสุดท้ายคือ บริการชำระเงินออนไลน์ เช่น PayPal 15.51%
จากผลการสำรวจดังกล่าวจะเห็นได้ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นอย่างไร เลือกซื้อขายสินค้าที่ใด และนิยมใช้ชำระเงินด้วยวิธีใดบ้าง ดังนั้นร้านค้าจึงจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน
SHIPPOP เราเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คุณจัดการเรื่องการส่งของได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น เรามีระบบ API เชื่อมกับขนส่งชั้นนำทั่วประเทศ และรองรับการเก็บเงินปลายทาง (COD) พร้อมค่าส่งราคาพิเศษสำหรับคุณโดยเฉพาะ และมีทีมงานคอยสนับสนุนให้ความช่วยเหลือเรื่องพัสดุ
ที่มา : สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA)