Do & Don’t สิ่งที่แบรนด์ควรทำและไม่ควรทำก่อนเริ่มต้นขายสินค้า

Selling products through online channels It is like opening a storefront offline. Just different in the form of the purchase process. Therefore, the website of the store is an important part that you need to pay attention to and should not be overlooked. Whether it’s writing a business description. Contact Product information There are, of course, a lot of things brands should and shouldn’t do. Today we will take you to see what brands should or should not do. 

—————————————————- —————————————————- —————————————————- ———

Do : What brands should do

—————————————————- —————————————————- —————————————————- ———

1. Write a complete description of the product.

Selling online is like having your own store page. But the difference is that if it’s a storefront, customers will be able to pick up the product right away. But when it’s online, customers can’t see the real product. Therefore, it is important for brands to write complete and clear descriptions of their products. So that customers can imagine and use that information to make a purchase decision.

For example, Burrow brand that sells furniture. Must tell the size of the furniture in detail with attached pictures for customers to choose the right product

2. Tell the benefit or what the customer will receive.

Telling the details of the product is really important. But if we add advantages or benefits that customers will receive as well. It will help encourage customers to make purchasing decisions more easily. Because customers will know if they buy this product will be worth it. How will his life be easier? 

เช่น แบรนด์ Larq เขียนอธิบายว่าขวดน้ำของเขาสามารถกรองน้ำและทำความสะอาดตัวเองได้ ซึ่งลูกค้าก็รู้ว่าถ้าเขาซื้อสินค้าชิ้นนี้ไป ชีวิตเขาจะสะดวกมากยิ่งขึ้น เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเขา

3. รีวิวจากลูกค้าคือตัวช่วยชั้นดี

การที่แม่ค้าพ่อค้าออนไลน์ให้รายละเอียดหรือคำแนะนำกับลูกค้า แน่นอนเลยว่าสำหรับยุคปัจจุบันลูกค้ามีช่องทางในการหาข้อมูลเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเขาอาจจะไม่เชื่อคนขายแบบร้อยเปอร์เซ็น แต่พฤติกรรมของลูกค้า เขาจะหันไปดูรีวิวจากลูกค้าคนอื่น ๆ ที่เคยซื้อสินค้าจากร้านค้าของเราไป เพื่อดูว่าสินค้าเป็นอย่างไร ดีหรือไม่ดีตรงไหนบ้าง ดังนั้นหากร้านไหนได้รับคะแนนรีวิวดีก็จะยิ่งช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อกับเราได้ง่ายมากยิ่งขึ้นค่ะ

—————————————————————————————————————————————————————

Don’t : สิ่งที่แบรนด์ไม่ควรทำ

—————————————————————————————————————————————————————

1. เขียนข้อความยาวมากเกินไป

จากที่กล่าวไปข้างต้นเรื่องของการเขียนบอกรายละเอียดให้ครบถ้วน แต่สิ่งสำคัญคุณจะต้องเลือกเฉพาะ “ข้อมูลที่สำคัญ” เท่านั้น เพราะถ้าคุณใส่ข้อมูลทุกอย่างโดยไม่คัดกรองข้อมูลเลย อาจจะทำให้ข้อความยาวมากจนเกินไป สิ่งที่จะตามมาคือ ลูกค้าจะไม่อ่านรายละเอียดและมองข้ามไปทันที หรืออาจจะเข้าส่งข้อความมาถามกับแบรนด์โดยตรงมากยิ่งขึ้น เมื่อคุณได้รับข้อความมากจนเกินไปและหากคุณตอบช้าก็จะยิ่งทำให้เสียโอกาสในการขายมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นแบรนด์ควรเลือกนำเสนอข้อมูลสำคัญ หรือทำรูปเป็นการตอบคำถามที่พบบ่อยเพื่อเป็นการลดขั้นตอนการทำงาน และเป็นการตอบคำถามแก่ลูกค้าเบื้องต้นได้

2. ไม่ทำความเข้าใจเกี่ยวกับลูกค้าของคุณ

ไม่ว่าจะคุณจะทำธุรกิจอะไร คุณก็ต้องทำความเข้าใจลูกค้าของคุณให้ดีว่าลูกค้าของคุณอายุเท่าไหร่ เพศไหน ชื่นชอบอะไร ไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไร ฯลฯ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะสะท้อนให้คุณเห็นว่าคุณจะต้องทำการสื่อสารกับลูกค้าแบบไหน ใช้รูปภาพหรือข้อความอะไรถึงจะเหมาะสมกับลูกค้าของคุณ เช่น หากลูกค้าของคุณเป้นกลุ่มวัยรุ่น แต่สิ่งที่คุณสื่อสารเป็นสิ่งที่เหมาะกับวัยผู้ใหญ่ ก็จะทำให้กลุ่มลูกค้าของคุณไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณกำลังจะสื่อสาร แต่ถ้าคุณสื่อสารได้เหมาะสม ลูกค้าจะเข้าใจแบรนด์และสินค้าของคุณได้ทันที และช่วยให้เกิดการซื้อขายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

3. เน้นรายละเอียดสินค้ามากเกินไป

การเขียนรายละเอียดสินค้ากับประโยชน์ของสินค้านั้นแตกต่างกันค่ะ คุณสมบัติคือการบอกว่าสินค้าขนาดเท่าไหร่ มีสีอะไรบ้าง วัสดุคืออะไร เป็นต้น แต่การบอกประโยชน์จะเป็นการพูดถึงสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับเมื่อเขาใช้สินค้าของเรา เช่น กล่องเก็บของช่วยให้บ้านดูเป็นระเบียบ หมดปัญหาฝุ่นเกาะ เป็นต้น แต่ทั้งสองอย่างก็ยังเป็นสิ่งที่ควรเขียนให้ลูกค้าทราบนะคะ แต่เราแนะนำให้คุณเขียน “ประโยชน์” ก่อนแล้วตามด้วยการบอก “รายละเอียด” ไว้ในส่วนท้าย เพื่อให้ลูกค้าเห็นถึงข้อดีก่อน ซึ่งเป็นเคล็ดลับอย่างนึงที่ช่วยทำให้ลูกค้ามีความต้องการสินค้าเพิ่มมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ

SHIPPOP เรามีขนส่งรองรับมากกว่า 18 ขนส่ง ให้บริการครอบคลุมทั่วทั้งประเทศไทย ส่งสินค้าได้หลากหลาย ที่สำคัญคือเรามีทีมงานคอยช่วยเหลือติดตามพัสดุของคุณ และมีระบบหลังบ้านช่วยจัดการเรื่องส่งของที่เปิดให้ใช้งานได้ “ฟรี” ระบบเราใช้งานง่าย แถมยังได้ค่าส่งราคาดี ช่วยลดต้นทุน เพิ่มกำไรให้กับคุณได้ด้วยนะคะ

If customers who are in doubt can ask for more information, please
contact Line : @SHIPPOP Tel. 092-905-3355
SHIPPOP makes delivery matters easy. Get started at

Getting started

Reference: https://bit.ly/3n6v4Av