3 เรื่องต้องระวัง ถ้าอยาก ส่งของ ให้ถึงมือลูกค้าชัวร์

การส่งของหลายคนมองว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายและคิดว่าเป็นขั้นตอนที่ง่ายที่สุดในการขายของออนไลน์ ทำให้หลายคนไม่ใส่ใจ เมื่อส่งสินค้าไปแล้วก็ถือว่าจบการขาย แต่จริงๆ แล้วขั้นตอนนี้เป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่พ่อค้าแม่ค้าต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก โดยเฉพาะหากสินค้านั้นเป็นสินค้าที่แตกหักได้ หรือมีค่ามากๆ ก็ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ มาดูกัน่วามีขั้นตอนใดบ้างที่เราต้องระวัง ถ้าอยากให้สินค้าที่เราต้องการจัดส่งไปยังลูกค้านั้นปลอดภัย 

  1. การจ่าหน้าพัสดุให้ชัดเจน

การส่งของแต่ละครั้งสิ่งหนึ่งที่เราต้องระวังและตรวจสอบให้ดีนั่นคือ รายละเอียดต่างๆ ได้แก่ ข้อมูลต้นทาง / ผู้ส่ง และข้อมูลปลายทาง / ผู้รับ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อ เราควรตรวจสอบให้ดีว่าเขียนไม่ผิดและอ่านได้ชัดเจน เพราะบางทีเราเขียนข้อมูลทุกอย่างได้ถูกต้องครบถ้วน แต่ลายมือของบางคนนั้นอาจอ่านได้ยาก ทำให้ขนส่งไม่เข้าใจหรือรับข้อมูลที่อาจผิดพลาดได้ อีกหนึ่งกรณีที่ร้านค้ามักชะล่าใจคือ บางร้านไม่เขียนที่อยู่ หรือเขียนเพียงแค่ชื่อร้านเท่านั้น และถ้าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น อย่างถ้าลูกค้าไม่อยู่รับสินค้าในวันที่ไปรษณีย์ไปส่งหรือที่อยู่ของผู้รับไม่ถูกต้อง พัสดุจะต้องถูกตีกลับไปที่อยู่ผู้ส่ง แล้วถ้าร้านค้าไม่ใส่ที่อยู่ไว้ พัสดุจะตีกลับไปที่ไหนล่ะ สุดท้ายแล้วลูกค้าไม่ได้สินค้า ร้านค้าก็ไม่ได้สินค้าคืน กลายเป็นปัญหาใหญ่ใที่เราต้องมาตามแก้กันอีก

ลองใช้บริการสร้างรายการและพิมพ์ใบปะหน้าของ SHIPPOP ช่วยตัดปัญหาอ่านไม่ออก เพียงกรอกข้อมูลและพิมพ์ใบปะหน้าจากระบบได้ทันที สร้างรายการส่งของผ่าน Shippop ได้ที่ สร้างรายการส่งของ  

  1. แพคพัสดุให้แน่นหนา

อย่างที่รู้กันว่าสินค้าแต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน การทำความเข้าใจหลักการแพคพัสดุจะช่วยป้องกันความเสียหายต่อสินค้าระหว่างการจัดส่งได้ ซึ่งมีวิธีแพคพัสดุที่จะช่วยให้สินค้าข้างในไม่ได้รับความเสียหายอยู่มากมายที่คุณควรรู้ ทั้งการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ดีจะช่วยป้องกันไม่ให้พัสดุสินค้าของคุณเสียหายได้ กล่องต้องเหมาะสมกับลักษณะของสินค้า ได้แก่ สถานะ ขนาดและน้ำหนักของสินค้า ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสินค้าของคุณได้รับการป้องกันการกระแทกเป็นอย่างดี ควรมีวัสดุกันกระแทกใส่จนแน่นหนาพอดีกับกล่อง เพื่อป้องกันสินค้าข้างในกล่องเคลื่อนย้ายกระแทกไปมาภายในกล่องหรือถูกบีบอัดระหว่างการขนส่ง ส่วนสินค้าที่แตกหักง่ายอย่างผลิตภัณฑ์ประเภทเซรามิค ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากแก้ว และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ควรห่อด้วยถุงกันกระแทก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายระหว่างการขนส่ง

ซึ่งคุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://blog.shippop.com/ ที่รวบรวมเทคนิคทั้งเรื่องเทคนิคการขายของออนไลน์ วิธีแพค-ส่งสินค้าที่เป็นประโยชน์ และข้อมูลต่างๆ ของขนส่งในประเทศไทย

  1. การตรวจเช็คสถานะพัสดุ

พัสดุที่เราส่งไป ไม่ใช่ว่าส่งแล้วก็จบ ตราบใดที่สินค้ายังส่งไม่ถึงมือลูกค้า สินค้านั้นยังอยู่ในความรับผิดชอบของเราอยู่ เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่เราส่งสินค้าให้ลูกค้าเสร็จ อย่าลืมนำ Tracking Number เพื่อเช็คสถานะพัสดุว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน อยู่ในขั้นตอนอะไร เวลาใด วันที่เท่าไหร่ เพื่อให้เราติดตามสินค้าได้ตลอดเวลา หรือบางร้านที่มีลูกค้าจำนวนมาก อาจส่งเลขนี้ให้ลูกค้านำไปเช็คสินค้าเอง ถ้าเกิดกรณีผิดพลาดขึ้นมา ลูกค้าจะมาแจ้งเรา เราก็สามารถเช็คสถานะสินค้าได้ รวมทั้งติดต่อกับทางไปรษณีย์หรือขนส่งอื่นๆ เพื่อสอบถามรายละเอียด และช่วยกันหาสาเหตุว่า ทำไมสินค้าถึงตกค้าง และไปตกค้างที่ไหนนั่นเอง

ซึ่ง SHIPPOP เรามีบริการสร้างหมายเลข Tracking ให้คุณทันทีหลังจากที่คุณชำระค่าขนส่งแล้ว ยิ่งหากมีออเดอร์ส่งจำนวนมากจากลูกค้า คุณก็แค่ Copy เลข Tracking จากหน้าเว็บไซต์ เพื่อส่งให้กับลูกค้าได้ทันที โดยสามารถนำหมายเลย Tracking ไปตรวจสอบได้ที่ ติดตามพัสดุผ่าน SHIPPOP  

ถ้าเราจัดการทุกสิ่งทุกอย่างตามขั้นตอนที่แนะนำไป รับรองว่าความผิดพลาดจะมีโอกาสขึ้นน้อยมาก หรือถ้าเกิดขึ้น เราก็สามารถหาทางออกได้ง่ายขึ้น จะได้ลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับกาารการส่งของได้ สำหรับพ่อค้าแม่ค้าคนไหนที่อยากทำความรู้จักกับระบบ SHIPPOP มากกว่านี้ ก็เข้าไปเยี่ยมชมได้ที่

www.shippop.com