หลายปีที่ผ่านมานี้เทรนด์ของอีคอมเมิร์ซเติบโตมากขึ้น ทำให้มีการส่งพัสดุสินค้ามากขึ้น เเต่สิ่งที่ตามมาก็คือ ไปรษณีย์ไทยเองก็เจอปัญหาพัสดุเสียหายจากการนำส่งมากขึ้นตามไปด้วย
เเต่ทว่าไปรษณีย์ไทยเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะพวกเขารู้ตัวดีว่าตัวเองไม่ใช่ผู้เล่นเดียวที่ “ผูกขาด” ตลาดขนส่งในประเทศไทยอีกต่อไปเเล้ว เราจึงได้เห็นการปรับตัวครั้งใหญ่ของ “ไปรษณีย์ไทย” ที่ได้พัฒนาทั้งระบบ นวัตกรรม เเละบุคลากรให้มีศักยภาพมากขึ้นเพื่อรักษาบัลลังก์ผู้นำในตลาด Logistics เอาไว้ให้ได้
เเละนี่คือ บทสรุป 4 ข้อ ที่บ่งบอกว่า “ไปรษณีย์ไทย” ยังคงเป็นขนส่งที่ไว้ใจได้ในยุคนี้ !
1) Strong Box
คือ กล่องพัสดุไปรษณีย์รูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นกล่องที่มีความคงทนต่อน้ำหนัก การกดทับ และแรงกระแทก ทั้งยังช่วยให้กล่องไม่เปลี่ยนรูปทรง ตลอดจนป้องกันสิ่งของที่ฝากส่งทางไปรษณีย์ภายในกล่องเกิดการชำรุด หรือ เสียหาย
โดยจะเป็นทางเลือกใหม่ของผู้ใช้บริการ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกใช้เป็นกล่องสำหรับบรรจุสิ่งของที่ฝากส่งทางไปรษณีย์ที่มีคุณสมบัติเฉพาะ อาทิ สิ่งของที่แตกหักเสียหายได้ง่าย หรือของเหลว เป็นต้น
.
2) รถจักรยานยนต์นำจ่ายโฉมใหม่
สาเหตุหนึ่งของพัสดุเสียหายก็เกิดรถนำจ่ายรูปแบบเดิมไม่ได้ป้องกันการกระแทกเท่าที่ควร เเต่ล่าสุดไปรษณีย์ไทยก็ได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์นำจ่ายพัสดุโฉมใหม่ โดยใช้กล่องไฟเบอร์กลาสที่มีความแข็งแรง เพื่อยกระดับการนำจ่ายพัสดุ
รวมทั้งตอบโจทย์ให้สามารถส่งพัสดุได้ทุกสภาพอากาศไม่ว่าเเดดจะร้อน ฝนจะตก อากาศจะหนาวอย่างไร พัสดุก็ยังคงรูปทรงเดิม เเละส่งถึงมือผู้รับปลายทางอย่างปลอดภัย
โดยรถจักรยานยนต์นำจ่ายโฉมใหม่นี้จะเริ่มใช้นำร่องในโซนกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ๆ ก่อนที่จะนำไปใช้งานทั่วประเทศ
3) เครื่องคัดแยกประสิทธิภาพสูง
ไปรษณีย์ไทยได้ติดตั้งเครื่องคัดแยกกล่องพัสดุและซองจดหมายประสิทธิภาพสูงเพิ่ม เพื่อช่วยเพิ่มความเร็วและคุณภาพการส่ง เเละให้พร้อมรับมือปริมาณงานจาก E-Commerce กว่า 8 ล้านชิ้นต่อวัน
ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องนี้ จะช่วยเพิ่มความรวดเร็วและคุณภาพในกระบวนการคัดแยก โดยใช้ระบบสแกนบาร์โค้ด และการอ่านรหัสไปรษณีย์บนตัวกล่องหรือซอง รวมทั้งการลำเลียงโดยสายพานอัตโนมัติเพื่อลงสู่ช่องคัดแยกปลายทางก่อนบรรจุลงในอุปกรณ์สำหรับส่งต่อไปยังที่ทำการปลายทางต่อไป
4) คุณภาพบุคลากร
ต่อให้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักร เเละนวัตกรรมจะดีเเค่ไหน เเต่ถ้าบุคลากรปฏิบัติตัวไม่เหมาะสม ยังมีการโยนสิ่งของที่ฝากส่งกันอยู่ สิ่งที่ลงทุนไปก็เปล่าประโยชน์
ไปรษณีย์ไทยนั้นได้ตระหนักถึงการรักษามาตรฐานคุณภาพในการให้บริการ จึงได้กำหนดระเบียบและมาตรฐานในการควบคุมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งออกนโยบาย “ห้ามโยนสิ่งของที่ฝากส่งทางไปรษณีย์โดยเด็ดขาด”
และได้กำชับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติตามระเบียบของไปรษณีย์ไทยอย่างเคร่งครัด รวมไปถึงหัวหน้าที่ทำการไปรษณีย์ก็มีการควบคุม/ดูแลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย โดยมีการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ภายในที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่ง
และหากพบว่าเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไปรษณีย์ไทยก็มีบทลงโทษตั้งแต่การว่ากล่าว ตักเตือน ทัณฑ์บน ตัดเงินเดือน จนถึงขั้นไล่ออกเลยทีเดียว
จากสถิติความเสียหายในการจัดส่งพัสดุที่ผ่านมาของไปรษณีย์ไทยนั้นนับว่าน้อยมากๆ เพราะมีพัสดุเพียง 33 จาก 1 ล้านชิ้นเท่านั้นที่ได้รับความเสียหาย คิดเป็นสัดส่วนยังไม่ถึง 1% เลยด้วยซ้ำ
เเต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีอะไรการันตีได้ว่า คุณจะไม่กลายเป็นคน 1% ผู้โชคร้ายนั้น เเต่ถ้าวันนี้คุณเลือกส่งพัสดุกับ SHIPPOP คุณจะได้รับการประกันสินค้าคุ้มครองสูงสุด 5,000 บาทไปเเบบฟรีๆ เเถมยังสามารถเคลมได้รวดเร็วภายใน 5 วัน หมดห่วงเเม้วันนั้นคุณอาจต้องกลายเป็นคน 1% ที่โชคร้าย
Reference :