ปัจจุบันเรามักพบเจอปัญหาการถูกหลอกจาก “มิจฉาชีพ” กันบ่อยครั้ง มีวิธีการหลากหลายรูปแบบที่ทำให้ผู้คนหลงเชื่อ โดยข้อมูลจาก “ตำรวจสอบสวนกลาง” บอกไว้ว่า จากสถิติในปี 2564 มีผู้เสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เข้าแจ้งความกว่า 1,600 ราย รวมมูลค่าความเสียหายสูงกว่า 1,000 ล้านบาท
ดังนั้นเราจึงต้องทำความเข้าใจว่าปัจจุบันมิจฉาชีพใช้วิธีการใดบ้าง และหากเราเจอมิจฉาชีพกับตัวเอง เราควรปฎิบัติตนอย่างไร มาดูเลยค่ะว่ามิจฉาชีพมาในรูปแบบบ้าง
มิจฉาชีพทาง “ออนไลน์”
![](https://blog.shippop.com/wp-content/uploads/2022/06/3783731-1024x683.jpg)
1. ใช้สลิปปลอม โพสต์ตามสินค้า
เป็นอีกภัยใกล้ตัวของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เมื่อต้องเจอมิจฉาชีพสวมรอยเป็นลูกค้า โดยอ้างว่า ไม่ได้รับสินค้า แล้วโพสต์สลิปปลอมเพื่อตามสินค้า กรณีนี้มักเกิดกับธุรกิจออนไลน์ที่มีออร์เดอร์จำนวนมาก จึงคิดว่ามีบางออร์เดอร์ตกหล่น จึงได้ส่งสินค้าไปให้กับลูกค้าตัวปลอม
2. แอปฯ เงินกู้ออนไลน์
เงินกู้ออนไลน์ กลายเป็นทางเลือกสำหรับเจ้าของธุรกิจจำนวนไม่น้อย ทำให้มิจฉาชีพใช้โอกาสตรงนี้หลอกล่อผู้คน โดยคำเชิญชวนประเภท “กู้เงินด่วน อนุมัติไวใน 15 นาที” จากนั้นจะหลอกให้ผู้กู้จ่ายค่าธรรมเนียม หรือดอกเบี้ยงวดแรก หรือเงินมัดจำสำหรับการกู้ยืม หากหลงเชื่อโอนเงินให้ มิจฉาชีพก็จะหายตัวไปทันที
3. ลิงก์ปลอม (Phishing) ขโมยข้อมูลส่วนตัว
ลิงก์ที่ส่งมาให้ ไม่ว่าจะเป็นทาง SMS หรืออีเมล รวมถึงโซเชียลมีเดียต่างๆ อาจเป็นหนึ่งในรูปแบบการโจรกรรมข้อมูลออนไลน์ที่เรียกว่า Phishing หรือการล้วงข้อมูลสำคัญของผู้ใช้งาน หากใครหลงเชื่อคลิกเข้าไปแล้วกรอกข้อมูลสำคัญ คุณอาจจะกลายเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพทันที
- กรณีกู้เงินออนไลน์ สามารถเช็กรายชื่อผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อ ได้จากเว็บไซต์ ธปท.
- กรณีลิงก์ปลอม (Phishing) อย่ากรอกข้อมูลส่วนตัวเด็ดขาด โดยเฉพาะเลขประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด เลขหน้า/หลังบัตรเครดิต รหัสผ่าน รวมถึงรหัส OTP 6 หลัก
มิจฉาชีพสวมรอยเป็น “คู่ค้า”
![](https://blog.shippop.com/wp-content/uploads/2022/06/3839931-1024x683.jpg)
1. บริษัททิพย์ ไม่มีอยู่จริง
ในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะทำการค้ากันโดยไม่เคยเจอหน้า มิจฉาชีพจึงอาศัยช่องว่างนี้ ด้วยการเปิดเว็บไซต์ขึ้นมา โดยที่ไม่มีบริษัทจริงและอาจจะทำการปลอมใบสำคัญการจดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นมากขึ้น จากนั้นก็จะทำหลอกขายสินค้าให้กับคู่ค้าที่หลงเชื่อ
2. เจาะข้อมูลคู่ค้า สวมรอยรับเงิน
บางครั้งมิจฉาชีพอาจจะมาในรูปแบบของแฮกเกอร์ คุณอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่า คู่ค้าที่ติดต่ออยู่นั้นใช่ตัวจริงหรือไม่ เพราะคุณอาจจะถูกเจาะข้อมูลแล้วทำการเปลี่ยนแปลงชื่ออีเมลให้แตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อย จนแทบสังเกตไม่เห็น หรืออาจมีการเปลี่ยนเลขที่บัญชีธนาคารและข้อมูลอื่นๆ ทำให้เงินที่โอนไป ไม่ถึงคู่ค้าตัวจริง
3. ของถูก ล่อใจให้รีบโอน
ของถูก ของลดราคา ใครๆ ก็อยากได้ มิจฉาชีพจึงใช้ตรงจุดนี้เป็นตัวหลอกล่อ โดยจะโน้มน้าวให้คุณต้องรีบตัดสินใจซื้อ โดยใช้เวลาเป็นตัวกระตุ้น เช่น โอนเงินมัดจำภายในเวลานี้ จะได้ส่วนลดเท่านี้ เมื่อหลงเชื่อโอนมัดจำก้อนแรกไปให้ คนร้ายก็จะหายตัวไปในทันที
มิจฉาชีพมักจะมาในคราบของ “เจ้าหน้าที่”
![](https://blog.shippop.com/wp-content/uploads/2022/06/3789857-1024x683.jpg)
1. เจ้าหน้าที่สรรพากร
ทำการค้าย่อมมาพร้อมกับภาษี มิจฉาชีพจึงแฝงตัวมาในคราบเจ้าหน้าที่สรรพากร เพื่อเรียกเก็บเงินภาษีจากร้านค้า โดยการโทรศัพท์มาแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ พร้อมกับแจ้งว่าสามารถผ่อนจ่ายภาษีได้ แล้วจัดการช่วยทำรายการให้ทุกอย่าง แต่ท้ายที่สุดเงินไม่ได้ถูกนำเข้าในระบบของกรมสรรพากร
2. เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)
เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่ถูกมิจฉาชีพนำไปแอบอ้าง โดยจะโทรศัพท์หาผู้เสียหายและบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สังกัด ส่วนคดีฟอกเงินทางอาญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ จากนั้นจะแจ้งเลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ของผู้เสียหาย พร้อมกับบอกว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีการฟอกเงิน จึงขอให้มาให้ปากคำและยืนยันตัวตนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ มิฉะนั้นจะมีความผิด และถ้าไม่อยากถูกดำเนินคดีให้โอนเงินไปให้นั่นเอง
3. พนักงานจากบริษัทขนส่ง
ช่วงนี้หากใครได้รับโทรศัพท์จากขนส่งชื่อดัง พร้อมแจ้งว่ามีพัสดุจากต่างประเทศติดศุลกากร ต้องโอนเงินเพื่อเคลียร์ของ หรือกล่าวหาว่าส่งของผิดกฎหมาย ต้องให้โอนเงินเพื่อเคลียร์คดี ฯลฯ คุณอาจจะกำลังตกเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพ
4. เจ้าหน้าที่ธนาคาร
อีกหนึ่งกลโกงสุดฮิตของมิจฉาชีพ คือการแอบอ้างว่าติดต่อมาจากธนาคาร พร้อมกับแจ้งว่า บัญชีของคุณนั้นมีความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ หรือเข้าข่ายเกี่ยวกับการฟอกเงิน เพื่อขอข้อมูลส่วนตัวในการตรวจสอบบัญชี ซึ่งหากคุณหลงกลให้ข้อมูล อาจทำให้ต้องสูญเสียเงินในบัญชีได้อย่างง่ายๆ
3 วิธี ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
1. มีสติ ไม่ตื่นตระหนกกับคำขู่ต่าง ๆ ของมิจฉาชีพ
2. คิดก่อนคลิก อย่าคลิกหรือกรอกข้อมูลส่วนตัวในลิงก์ที่ไม่รู้ที่มาที่ไป
3. อย่าโอนไว เช็กให้ชัวร์ก่อน ติดต่อหน่วยงาน หรือธนาคาร อย่ารีบร้อนโอนเงิน
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่ามิจฉาชีพอาจมาในรูปแบบของ “พนักงานจากบริษัทขนส่ง” ซึ่งมีวิธีการหลากหลายรูปแบบ และเรามักพบเป็นระยะ ๆ ดังนั้นทุกท่านควรติดตามข่าวสารจากขนส่งโดยตรง เนื่องจากช่วงที่มิจฉาชีพระบาด ทางขนส่งจะประกาศแจ้งถึงวิธีการของมิจฉาชีพและวิธีการรับมือเบื้องต้น
หากคุณส่งของผ่าน SHIPPOP คุณจะสามารถตรวจสถานะของพัสดุได้ พร้อมทั้งหากคุณมีปัญหาคุณสามารถติดต่อสอบถามได้ทันที เรามีทีมงานคอยดูแลพัสดุให้คุณทุกชิ้น
อ้างอิง : https://bit.ly/3N6MIxk